วันนี้ผมเอาคำศัพท์ที่เกี่ยวกับคำว่า หัว มาให้ได้ดูกัน
หวังว่าน่าจะได้ประโยชน์กับทุกท่านบ้าง นะครับ
หัว, เหง้า bulb (n)
หัวกระสุน bullet (n)
หัวก๊อก, ก๊อกน้ำ tap (n), faucet
หัวกะทิ undiluted coconut milk(n)
หัวกะโหลก skull(n)
หัวแก้วหัวแหวน, คนโปรด favorite (n), darling, favored one
หัวขโมย thief (n)
หัวขโมย,อาชญากร desperado (n), bandit, ruffian, outlaw
หัวข้อ content (n)
หัวข้อเรื่อง topic, subject (n)
หัวขาด headless (adj)
หัวข่าว headline(n), news headline (n), column (n)
หัวข่าวย่อย column heading (n)
หัวเข็ม top of needle (n)
หัวเข็มขัด buckle (n)
หัวเข่า knee (n)
หัวแข็ง, หัวดื้อ be stubborn, obstinate; be obdurate; be headstrong
หัวโขน actor's mask (n)
หัวค่ำ early in the evening(n)
หัวคิด, ความคิด, สติปัญญา wisdom, brains, head, thought, idea (n)
หัวโค้ง curve (n)
หัวจุก, ผมจุก topknot(n)
หัวใจ heart (n)
หัวใจวาย heart failure
หัวดื้อ, หัวรั้น diehard (adj), conservative, unchanging
หัวต่อ jump head, turn head (n)
หัวเตียง bed head (n)
หัวนิ้วแม่เท้า great toe, big toe
หัวบีตรูต beetroot (n)
หัวปักหัวปำ head over heels
หัวฟัดหัวเหวี่ยง flounce (v)
หัวมุมถนน corner (n)
หัวแม่เท้า big toe (n)
หัวรถจักร engine (n), locomotive
หัวรั้น, ดันทุรัง dogmatic (adj), opinionated, biased stubborn, hardheaded
หัวเราะเบาๆ chuckle (v), laugh, giggle
หัวเราะเยาะ, ดูถูก laugh at (v) deride (v), jeer, mock, ridicule
หัวเราะร่วน, ขำกลิ้ง fall about, fall around, crash about, fall about
หัวเราะร่าเริง chortle (v), chuckle, snort
หัวเราะเสียงดังแหลม cackle (v), cluck, gabble
หัวเรี่ยวหัวแรง anchorman (n)
หัวเรือ bow (n)
หัวเรื่องของการอภิปราย cause (n), subject of discussion
หัวเรื่องย่อย sub-title (n)
หัวล้าน baldness (n), balding
หัวลูกศร arrowhead (n)
หัวหน้า, ผู้นำ chief (n), leader, head, grand master
หัวหน้าคนงาน foreman (n)
หัวหน้าคนงานที่เป็นผู้หญิง forelady (n), forewoman
หัวหน้าคนใช้, พ่อบ้าน butler (n)
หัวหน้าครอบครัว head of the family (n)
หัวหน้าครอบครัว, เจ้าบ้าน paterfamilias
หัวหน้าแต่ในนาม figurehead (n), dummy
หัวหน้าทีม captain (n), leader, commander
หัวหน้าผู้ควบคุมเรือ, กัปตัน captain (n), shipmaster
หัวหน้าผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ curator (n), museum officer
ผู้บังคับบัญชา commander (n), commandant, administrator, dictator, ruler, skipper
หัวหน้าเผ่า chieftain (n)
หัวหน้าฝ่าย, คณบดี (ทางการศึกษา) dean (n), the head of a faculty
หัวหน้าฝูง chief of a herd of animals(n)
หัวหน้าพรรค party leader(n)
หัวหน้าพ่อครัว chef (n)
* * * * *
วันพฤหัสบดีที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ตอบคำถามคณิตศาสตร์
มีผู้ถามผมเข้ามาเมื่อ 11 มิถุนายน 2555, 18:26
คำถาม คือ
ยังไม่เข้าใจเลยครับ ถ้าโจทย์แบบนี้จะตอบยังไงครับ
1,122+2,378+8,877 = .......
คำตอบ ดูจากลักษณะของโจทย์แล้วเป็นการบวกตัวเลขธรรมดา
โดยที่ตัวเลขทั้งหมดเป็น หลักพัน ซึ่งวิธีการคิดแบบทั่วไป
เราคิดได้ 2 แบบคือ
แบบที่ 1 การบวกแบบแนวตั้งปกติ โดยอาจจะบวกครั้งละ 2 ตัว
หรือ 3 ตัวพร้อมกันก็ได้
แต่สำหรับโจทย์ข้อนี้ถ้าต้องการคิดแบบเร็วได้ โดยไม่ได้คำนึง
ถึงวิธีทำมากนัก ขอแนะนำแบบที่ 2
แบบที่ 2 การบวกเลขโดยบวกจากหลังไปหน้า โดยเริ่มจาก
หลักหน่วย เช่น
1,122+2,378+8,877
หล้กหน่วย คือ 2 + 8 + 7 =17
หลักสิบ คือ 2 + 7 + 7 + 1 = 17
หลักร้อย คือ 1 + 3 + 8 + 1 = 13
หลักพัน คือ 1 + 2 + 8 + 1 = 12
คือตอบคือ 1,122+2,378+8,877 = 12,377
ดูแบบนี้ยากก็จริงแต่ถ้าคิดในใจจะง่ายและเร็วขึ้นครับ
* * * * *
คำถาม คือ
ยังไม่เข้าใจเลยครับ ถ้าโจทย์แบบนี้จะตอบยังไงครับ
1,122+2,378+8,877 = .......
คำตอบ ดูจากลักษณะของโจทย์แล้วเป็นการบวกตัวเลขธรรมดา
โดยที่ตัวเลขทั้งหมดเป็น หลักพัน ซึ่งวิธีการคิดแบบทั่วไป
เราคิดได้ 2 แบบคือ
แบบที่ 1 การบวกแบบแนวตั้งปกติ โดยอาจจะบวกครั้งละ 2 ตัว
หรือ 3 ตัวพร้อมกันก็ได้
แต่สำหรับโจทย์ข้อนี้ถ้าต้องการคิดแบบเร็วได้ โดยไม่ได้คำนึง
ถึงวิธีทำมากนัก ขอแนะนำแบบที่ 2
แบบที่ 2 การบวกเลขโดยบวกจากหลังไปหน้า โดยเริ่มจาก
หลักหน่วย เช่น
1,122+2,378+8,877
หล้กหน่วย คือ 2 + 8 + 7 =17
หลักสิบ คือ 2 + 7 + 7 + 1 = 17
หลักร้อย คือ 1 + 3 + 8 + 1 = 13
หลักพัน คือ 1 + 2 + 8 + 1 = 12
คือตอบคือ 1,122+2,378+8,877 = 12,377
ดูแบบนี้ยากก็จริงแต่ถ้าคิดในใจจะง่ายและเร็วขึ้นครับ
* * * * *
วันจันทร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ธรรมะเตือนใจ
วันนี้ผมเอา ธรรมะดีๆมาฝากสำหรับเป็นข้อคิดเตือนใจให้ทุกท่าน
ได้อ่านและพิจารณาดูครับ จาก Facebook ของ
หลวงปู่แบน ธนากโร วัดดอยธรรมเจดีย์ สกลนคร
"..ใครทำให้เราทุกข์ เราก็ไม่ชอบใจ สัตว์อื่นๆเขาก็เป็นสัตว์โลกเหมือน
กับเรา มีจิตมีใจ มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนเรา อะไรที่จะทำให้เขาเกิด
ความทุกข์ เราจึงอย่าไปทำ..เราประหารเขา เรานั้นล่ะจะต้องถูกเขาประหาร
เรียกว่ามันเป็นกรรมเป็นเวรที่จะต้องตามสนองชดใช้กัน ไม่มีที่สิ้นสุด..
การให้อภัยจึงมีความจำเป็น อโหสิต่อกัน..จึงให้มีเมตตา ไม่ผูกพยาบาท..
การจองล้างจองผลาญกันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครต้องการ เมื่อเราก็ไม่ต้องการ
เราก็ละเสีย.." หลวงปู่แบน ธนากโร วัดดอยธรรมเจดีย์ สกลนคร
* * * * *
ได้อ่านและพิจารณาดูครับ จาก Facebook ของ
หลวงปู่แบน ธนากโร วัดดอยธรรมเจดีย์ สกลนคร
"..ใครทำให้เราทุกข์ เราก็ไม่ชอบใจ สัตว์อื่นๆเขาก็เป็นสัตว์โลกเหมือน
กับเรา มีจิตมีใจ มีความรู้สึกนึกคิดเหมือนเรา อะไรที่จะทำให้เขาเกิด
ความทุกข์ เราจึงอย่าไปทำ..เราประหารเขา เรานั้นล่ะจะต้องถูกเขาประหาร
เรียกว่ามันเป็นกรรมเป็นเวรที่จะต้องตามสนองชดใช้กัน ไม่มีที่สิ้นสุด..
การให้อภัยจึงมีความจำเป็น อโหสิต่อกัน..จึงให้มีเมตตา ไม่ผูกพยาบาท..
การจองล้างจองผลาญกันเป็นเรื่องที่ไม่มีใครต้องการ เมื่อเราก็ไม่ต้องการ
เราก็ละเสีย.." หลวงปู่แบน ธนากโร วัดดอยธรรมเจดีย์ สกลนคร
* * * * *
วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ทำไมเรื่องบัญญัติไตรยางค์จีงไม่มีในโรงเรียน
บทความพิเศษ ตอนนี้เกิดจาก ข้อคิดเห็นของผู้ที่มาเยี่ยมชมที่ใช้ชื่อว่า
-ProS-4 เมื่อ 4 มิถุนายน 2555, 22:46 ในหัวข้อ เรื่องบัญญัติไตรยางค์
ที่เขียนไว้ว่า
" บางโรงเรียนไม่มีสอนนะครับ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำ ทั้งๆ ที่มีประโยชน์มากๆ"
เท่าที่ผมทราบจากการการสอนพิเศษนักเรียนในหลายๆระดับและได้มีโอกาส
คุยกับผู้ปกครองของเด็กหลายๆ คนจากหลายโรงเรียน การเรียนการสอนเรื่อง
บัญญัติไตรยางค์ไม่มีในโรงเรียนสอนในหลายๆโรงเรียน...เป็นความจริงครับ
ผมคาดว่า ทางโรงเรียนเปลี่ยนแนวทางการสอนโดยใช้เรื่องอื่นหรือวิธีการอื่นๆ
มาใช้แทน เช่น การใช้เรื่องอัตราส่วนและการแก้สมการ ซึ่งก็สามารถทำได้
และเป็นวิธีการที่สั้นกว่า ใช้เวลาในการคิดและเขียนขั้นตอนน้อยกว่า
แต่ผมไปเจอ วิธีบัญญัติไตรยางค์ ในหนังสือแบบเรียนคณิตศาสตร์ที่เป็น
ภาษาอังกฤษของเด็กนักเรียนโรงเรียนหนึ่งครับ โดยส่วนตัวก็รู้ดีใจที่ได้
เห็นและได้สอนหัวข้อนี้อีก
และผมก็รู้สึกแบบเดียวกันครับว่า เรื่องบัญญัติไตรยางค์ เป็นเรื่องที่มี
ประโยชน์มาก เพราะบัญญัติไตรยางค์ เป็นเรื่องที่สอนให้เรารู้จักคิด
อย่างเป็นขั้นเป็นตอนและบอกหรือแสดงที่มาที่ไปได้อย่างถูกต้อง
....ตรงกับคำพูดที่ว่า "Slow but sure." ครับ
ขอขอบคุณ -ProS-4 ที่มาเยี่ยมชมและร่วมแสดงความเห็น
ผมได้สรุปเนื้อหาเรื่องของบัญญัติไตรยางค์ เพิ่มเติมที่เว็บแฝดน้องครับ
เข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ http://kruteeworld.siamvip.com/
และมีเรื่องดีๆให้ดูให้ดาว์โหลดฟรีด้วยครับ
* * * * *
-ProS-4 เมื่อ 4 มิถุนายน 2555, 22:46 ในหัวข้อ เรื่องบัญญัติไตรยางค์
ที่เขียนไว้ว่า
" บางโรงเรียนไม่มีสอนนะครับ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำ ทั้งๆ ที่มีประโยชน์มากๆ"
เท่าที่ผมทราบจากการการสอนพิเศษนักเรียนในหลายๆระดับและได้มีโอกาส
คุยกับผู้ปกครองของเด็กหลายๆ คนจากหลายโรงเรียน การเรียนการสอนเรื่อง
บัญญัติไตรยางค์ไม่มีในโรงเรียนสอนในหลายๆโรงเรียน...เป็นความจริงครับ
ผมคาดว่า ทางโรงเรียนเปลี่ยนแนวทางการสอนโดยใช้เรื่องอื่นหรือวิธีการอื่นๆ
มาใช้แทน เช่น การใช้เรื่องอัตราส่วนและการแก้สมการ ซึ่งก็สามารถทำได้
และเป็นวิธีการที่สั้นกว่า ใช้เวลาในการคิดและเขียนขั้นตอนน้อยกว่า
แต่ผมไปเจอ วิธีบัญญัติไตรยางค์ ในหนังสือแบบเรียนคณิตศาสตร์ที่เป็น
ภาษาอังกฤษของเด็กนักเรียนโรงเรียนหนึ่งครับ โดยส่วนตัวก็รู้ดีใจที่ได้
เห็นและได้สอนหัวข้อนี้อีก
และผมก็รู้สึกแบบเดียวกันครับว่า เรื่องบัญญัติไตรยางค์ เป็นเรื่องที่มี
ประโยชน์มาก เพราะบัญญัติไตรยางค์ เป็นเรื่องที่สอนให้เรารู้จักคิด
อย่างเป็นขั้นเป็นตอนและบอกหรือแสดงที่มาที่ไปได้อย่างถูกต้อง
....ตรงกับคำพูดที่ว่า "Slow but sure." ครับ
ขอขอบคุณ -ProS-4 ที่มาเยี่ยมชมและร่วมแสดงความเห็น
ผมได้สรุปเนื้อหาเรื่องของบัญญัติไตรยางค์ เพิ่มเติมที่เว็บแฝดน้องครับ
เข้าไปเยี่ยมชมได้ที่ http://kruteeworld.siamvip.com/
และมีเรื่องดีๆให้ดูให้ดาว์โหลดฟรีด้วยครับ
* * * * *
เรื่องขำขัน-คลายเครียด
วันนี้ผมเอาเรื่องขำๆ มาให้อ่านคลายเคลียดกันครับ
วิธีทำลายความสงัดในลิฟต์
ธรรมชาติประการหนึ่งของคนในลิฟต์คือ ทุกคนจะวางตัวเย่อหยิ่งไม่รู้จัก
และไม่มองหน้ากัน ไม่ยิ้มแย้ม ตาจ้องที่เลขบอกชั้น
บรรยากาศยะเยื่อก เหมือนเกิดสงครามเย็น ...
.....แต่คุณอาจเปลี่ยนแปลงมันได้โดย
1. สั่งขี้มูกใส่ผ้าเช็ดหน้า ส่งให้คนรอบๆดู ถามว่า "ขี้มูกสีนี้มีเชื้อไหมครับ"
2. กรณีที่ขึ้นหลายชั้น แกว่งตัวไปมาให้ลิฟท์โยกเยก พลางร้อง "ฮุยเลฮุย"
3. แจกนามบัตรและขอนามบัตร
4. ทำเสียงบึมทุกครั้งที่มีคนกดปุ่ม
5. จับมือคนที่เข้ามาใหม่ พลางพูดว่า "ยินดีต้อนรับ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ"
6. ร้อง "ติ๊งต่อง" ทุกครั้งที่ประตูปิด
7. ไอแห้งๆ เป็นระยะ บ่นพึมพำว่า ยาวัณโรคหมดหมดหลายเดือนแล้ว
8. ยืนเงียบๆอยู่ที่มุดในสุด หันหน้าชิดฝาไม่ขยับร่างกาย พึมพำคาถาไม่ต้องลงแม้ลิฟท์จะขึ้นสุดแล้ว
9. ผายลมต่อเนื่อง มองผู้หญิงข้างๆแล้วยิ้ม
10. รำมวยไทเก๊ก
11. พูดเสียงดังว่า "ปุ่มอะไร ?" แล้วกดปุ่มสีแดงที่เขียนว่าหยุดฉุกเฉิน
12. แง้มกระเป๋าถือ ชะโงกหน้าดูข้างใน พูดกับกระเป๋าว่า "คุณสบายดีไหม?
อากาศในนั้นพอหายใจหรือเปล่า? เดี๋ยวก็ถึงแล้ว"
13. เข้าทรง
....ยิ้มให้กันหน่อยน่า อย่างน้อยถามว่า ไปชั้นไหนคะ เป็นธุระกดลิฟท์ให้ ก็ยังดี
* * * * *
วิธีทำลายความสงัดในลิฟต์
ธรรมชาติประการหนึ่งของคนในลิฟต์คือ ทุกคนจะวางตัวเย่อหยิ่งไม่รู้จัก
และไม่มองหน้ากัน ไม่ยิ้มแย้ม ตาจ้องที่เลขบอกชั้น
บรรยากาศยะเยื่อก เหมือนเกิดสงครามเย็น ...
.....แต่คุณอาจเปลี่ยนแปลงมันได้โดย
1. สั่งขี้มูกใส่ผ้าเช็ดหน้า ส่งให้คนรอบๆดู ถามว่า "ขี้มูกสีนี้มีเชื้อไหมครับ"
2. กรณีที่ขึ้นหลายชั้น แกว่งตัวไปมาให้ลิฟท์โยกเยก พลางร้อง "ฮุยเลฮุย"
3. แจกนามบัตรและขอนามบัตร
4. ทำเสียงบึมทุกครั้งที่มีคนกดปุ่ม
5. จับมือคนที่เข้ามาใหม่ พลางพูดว่า "ยินดีต้อนรับ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ"
6. ร้อง "ติ๊งต่อง" ทุกครั้งที่ประตูปิด
7. ไอแห้งๆ เป็นระยะ บ่นพึมพำว่า ยาวัณโรคหมดหมดหลายเดือนแล้ว
8. ยืนเงียบๆอยู่ที่มุดในสุด หันหน้าชิดฝาไม่ขยับร่างกาย พึมพำคาถาไม่ต้องลงแม้ลิฟท์จะขึ้นสุดแล้ว
9. ผายลมต่อเนื่อง มองผู้หญิงข้างๆแล้วยิ้ม
10. รำมวยไทเก๊ก
11. พูดเสียงดังว่า "ปุ่มอะไร ?" แล้วกดปุ่มสีแดงที่เขียนว่าหยุดฉุกเฉิน
12. แง้มกระเป๋าถือ ชะโงกหน้าดูข้างใน พูดกับกระเป๋าว่า "คุณสบายดีไหม?
อากาศในนั้นพอหายใจหรือเปล่า? เดี๋ยวก็ถึงแล้ว"
13. เข้าทรง
....ยิ้มให้กันหน่อยน่า อย่างน้อยถามว่า ไปชั้นไหนคะ เป็นธุระกดลิฟท์ให้ ก็ยังดี
* * * * *
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)