วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

เรียนไปทำไม

วันนี้มีเรื่องที่เป็นเรื่องจริงที่ผมได้ประสบมากับต้วเอง เป็นเรื่องที่
น่าคิด เลยมาเล่าสู่กันอ่านครับ...
วันหนึ่งขณะที่ผมกำลังสอนลูกศิษย์คนหนึ่งที่สอนพิเศษ
กันมาหลายปี ในวิชาคณิตศาสตร์ควบกับภาษาอังกฤษ
เจ้าลูกศิษย์ก็มาถามขึ้นมาว่า...

ศิษย์รัก  เราต้องเรียนหนังสือไปทำไม
ผม ...???...
ผม  ถ้าเราอยู่ในป่า ก็คงไม่ต้องเรียนหนังสือก็ได้ แต่นี้เราอยู่ในเมือง
  ในสังคมต้องมีการแข่งขัน สังคมต้องการคนที่เก่ง ฉลาดและเป็นคนดี
  โลกเรามันเปลี่ยนไปเร็วและเปลี่ยนไปทุกวัน ถ้าหนูไม่เรียนจะอยู่รอด
  ได้ยังไง
ศิษย์รัก ก็หนูรวยอยู่แล้วไม่ต้องเรียนก็ได้ พ่อแม่หนูมีตัง
ผม แล้วไม่คิดเลยหรือว่า พ่อแม่หนูจะรวยได้ทุกวัน ไม่แน่นะ
  พรุ่งนี้อาจจะล้มละลายหรืออาจจะไม่ได้อยู่ดูแลอยู่ก็ได้ จริงไหม
ศิษย์รัก ก็ไม่รู้จะเรียนไปทำไม บางเรื่องก็ไม่ได้ใช่จริง
ผม ใช่ครูก็ไม่เถียง ครูเองก็ไม่ได้ใช่ แต่ที่ต้องเรียนเพราะ
  มันเป็นพื้นฐานที่จะใช่เรียนในเรื่องต่อไป เขาให้เรียนเพื่อให้อยู่ใช้
  สมองใช้ความคิดอย่างเป็นขั้นเป็นตอนและมีเหตุมีผล ไม่ใช่คิด
  ทำอะไรแบบมั่วๆแบบที่หนูทำอยู่ทุกวันนี้
ศิษย์รัก  ก็หนูเบื่อมากเลย เรียนไม่รู้เรื่อง เรียนแล้วก็ปวดหัว
ผม ก็เพราะเราไม่ตั้งใจ ชอบคิดอะไรเกินเลย เอาเรื่องอื่นมาคิดปนกัน
  จนตัวเองสับสน ให้ฝึกฝนตามที่บอกก็ไม่ยอมทำ แล้วจะเรียนรู้เรื่อง
  ได้ยังไง...
ศิษย์รัก ก็หนูไม่รู้จะเรียนไปทำไม เดี๋ยวปี 2012 โลกก็แตกแล้ว
ผม เชื่อด้วย... เรื่องแบบนี้...ทีเรื่องแบบนี้เชื่อสนิทเลย...ทีไอ้ที่
  ครูสอนดีๆไม่เชื่อ (ผม หมายถึงครูทุกคน) จริงๆขี้เกียจจะเรียน
  ก็บอกมาก็ได้ ครูจะได้กลับเบื่อหนูเหมือนกัน
ศิษย์รัก  เปล่า...อย่าเพิ่งกลับนะครู  ก็มันไม่รู้จะเรียนไปทำไม
  ไม่เห็นจะได้อะไรขึ้นมาเลยนะ..ครู
ผม ก็ลองคิดดูเองแล้วกัน... ถ้าเรียนไม่เรียนโตไปจะทำอะไรกิน
ศิษย์รัก  ก็หนูอยากทำร้านไอศกรีม... หนูคิดสูตรไอศกรีมได้หลายอย่าง
  แล้วนะครู มี...
ผม ก็ยังดีที่มีความคิด แต่ตอนนี้ต้องอดทนเรียนไปก่อน เพราะ
  มันเป็นอะไรที่ชีวิตหนูต้องผ่านมันไปให้ได้ และต้องผ่านไปให้ได้ดีด้วย
  อย่าให้พ่อแม่เป็นห่วงหนูแบบนี้
ศิษย์รัก ห่วงอะไรล่ะครู
ผม ก็ห่วงอนาคตหนูไง ไอ้เด็กโง่ ห่วงว่าอนาคตหนูจะไปไม่รอด
  ต่อให้ พ่อแม่รวยยังไง หนูร้านมีต้องการ  ถ้าหนูไม่มีสมองไม่มีความรู้
  ดูแลตัวเองไม่เป็น  ยังไงก็เจ้งแน่... แต่ถ้ามีความรู้ดี ฝึกตัวเองให้เป็น
  ให้ดูแลตัวเองได้ ก็พอมีโอกาสรอด ฟังให้ดีนะไอ้ศิยษ์รัก คนจนๆ
  อย่างครูกับคนที่ไม่เงินแบบหนู เขาต้องหวังพึ่งพาคนแบบหนู คนที่จะ
  เป็นเจ้าของกิจการ เป็นเจ้าของบริษัทต่อไป ชีวิตครู ชีวิตคนอื่นจะได้อยู่ได้
  พอจะคิดทันหรือเปล่าว่า การที่คนแบบหนูเรียนมันไม่ใช่แค่ตัวหนูเอง
  แค่ให้พ่อแม่ ญาติพี่น้องดีใจ แต่เพื่อคนอื่นๆ ที่หนูต้องเจอด้วย
  หนูเกิดมาโชคดีไม่ต้องนับหนึ่งใหม่เหมือนคนอื่นบ้างคนที่นับตั้งแต่ศูนย์
  บางคนนับยังไงก็ไม่ได้ศูนย์ แต่นี้หนูเองอาจจะนับทีละหนึ่ง ทีละสอง
  แต่ถ้าเรียนดีๆ เรียนเก่ง ต่อไปหนูอาจจะนับได้ทีละสิบ ทีละพัน ก็ได้
  พ่อแม่ก็ไม่ต้องห่วง คนอื่นเขาจะได้อาศัยพึ่งหนูได้บ้าง...
ศิษย์รัก พอแล้วครู เลิกบ่นได้แล้ว มาสอนสักที หนูจะเรียนแล้ว
ผม ได้ก็ขอเขกกระโหลก สักทีก่อน
ศิษย์รัก โอ๊ย...

แล้วการเรียนการสอนก็ดำเนินต่อไป จนจบชั่วไมง

อ่านแล้วเป็นยังไงครับ ผมไม่มีข้อสรุป แต่ขอว่าอย่าไปโทษเด็ก
ที่มีความรู้สึกนึกคิดแบบนี้... เป็นคุณผู้อ่านจะมีความคิดอย่างไร
ขอความเห็นคิด หน่อยครับ...
** ** **

1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ4 มีนาคม 2555 เวลา 19:35

    อยากเจอครูอย่างนี้จัง เผื่อชีวิตจะดีขึ้นกว่านี้

    ถ้าจุดเริ่มต้นนับตั้งแต่ -10 ... ผมก็คงจะเริ่มนับตั้งแต่ติดลบเลยหละคระบ

    ผมอยากได้คำสอนดีๆบ้าง ช่วยรบกวนส่งคำสอนให้ผมหน่อยนะครับ

    ที่ E-mail what_good@hotmail.co.th

    ตอบลบ