วันศุกร์ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

วันวิสาขบูชา ตอน2

ในวันนี้ผมจะขอนำเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา
ที่ต้องใจไว้มาเล่าให้ฟังให้จบก่อน

หลักธรรมของพระพุทธองค์
พระพุทธเจ้าทรงสอนอะไร
        หลักธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสสอนไว้เราเรียกว่า พระธรรม
ซึ่งมีอยู่อย่างมากมาก ซึ่งผมขอนำมาสรุปเป็นข้อๆ เพื่อเป็น
หลักในการประพฤติปฎิบัติ ดังนี้

* สอนให้เราพึ่งพาตัวเองให้มากและเมื่อตั้งตัวได้แล้วจึงช่วยเหลือผู้อื่น
* สอนให้เรามีสติ ตื่นรู้อยู่กับปัจจุบัน
* สอนให้เรารู้ว่า สิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นนั้นเป็นผลที่เกิดจาก
    เหตุปัจจัยหรือมีสาเหตุมาก่อนหน้า ก่อนที่จะเกิดผลที่ตามมาในวันนี้
* สอนให้เรารู้ว่า สิ่งต่างๆมีเกิดมีดับ มีการตั้งอยู่เพียงชั่วคราว
    และก็มีการดับสิ้นไปเป็นธรรมะ เป็นไปตามกฎของธรรมชาติ
* สอนให้เราทำความดี ไม่ทำความชั่ว ทำจิตใจให้ผ่องแผ่ว
* สอนให้เราดำเนินชีวิตด้วยหลักทางสายกลาง
* สอนให้เรารู้ว่า คนเราเกิดมาแล้ว มีสุขก็มีทุด มีลาภก็มีเสื่อมลาภ
    มียศก็ย่อมมีการเสื่อมยศ มีคนชอบเราก็ย่อมมีคนเกียจคน
    มีคนชื่นชมเราก็ย่อมมีคนที่นิทาเรา
* สอนให้เรา ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท
* สอนให้เรา รู้และเข้าใจเรื่องของความทุกข์และวิธีการดับของทุกข์

แล้วเราจะเรียนรู้พระธรรมของพระพุทธองค์ได้จากไหน ???
วิธีที่ดีวิธีหนึ่ง คือ อ่านหนังสือธรรมะต่างๆที่มีพระอาจารย์หลายๆ
ท่านได้เขียนไว้หรือมีคนเขียนเรื่องเกี่ยวธรรมะที่น่าสนใจไว้
หลายท่าน ที่ผมพอจะรู้ ได้แก่ พระพุทธทาสภิกขุ, พระพรหมคุณาภรณ์
(ป.อ. ปยุตโต), หลวงพ่อจรัส ,ว.วัชรเมธี, พระมหาสมปอง, คุณดังตฤน ฯลฯ

พระสงฆ์
พระสงฆ์มีหน้าที่อะไร พระสงฆ์มีหน้าที่ 2 ด้านใหญ่คือ
หน้าที่ต่อต่อเอง คือ การทำพระนิพพานให้แจ้ง
หน้าที่ต่อสังคม คือ การสอนเผยแผ่คำสอนของพระพุทธองค์
ให้กับฆราวาส และบุคคลทั่วไปให้มีแนวทางการดำเนินชีวิตที่ถูกต้อง

ผู้ชายในพุทธศาสนาต้องออกบวชหรือไม่
พระพุทธเจ้าไม่เคยออกกฎบังคับให้ใครให้ต้องเชื่อใน
สิ่งที่พระองค์ทรงสอนไว้ แต่ให้ลองนำไปปฏิบัติให้เห็นจริงก่อน
แล้วจึงเชื่อ การบวชก็เช่นเดียวกันพระพุทธเจ้าก็ไม่เคยบังคับ
ใครให้ออกบวชถ้าผู้นั้นไม่ศรัทธา แต่ในประเทศไทยเราถือ
เป็นประเพณีที่ทำสืบกันมา ในด้านหนึ่งถือเป็นการทดแทน
พระคุณให้กับพ่อแม่และผู้มีพระคุณ ในอีกด้านหนึ่งถือว่าเป็น
การสืบต่อพระพุทธศาสนา และผู้ที่ออกบวชก็จะได้มีโอกาศ
เข้าไปศึกษาพระธรรม
* * * * *

วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

วันวิสาขบูชา

เนื่องด้วยช่วงนี้เป็นช่วงวันวิสาขบูชา วันสำคัญอีกวันหนึ่งของ
ชาวพุทธเรา ผมเลยขอนำเสนอเรื่องเกี่ยวกับ พระพุทธเจ้า
ให้ได้อ่านกัน

ครั้งผมเคยถามนักเรียนที่เรียนกับผมว่า ทราบหรือไม่ว่า
พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันที่เรากราบไหว้อยู่นั้นพระองค์มี
พระนามว่าอะไร คำตอบที่ได้คือ ความเงียบครับและดูเหมือนว่า
นักเรียนจะงงๆด้วยว่าพระพุทธเจ้ามีชื่อด้วยหรือ คำว่าพระพุทธเจ้า
ไม่ใช่ชื่ออีกหรือ จึงเป็นที่มาของบทความของผมในตอนนี้ครับ

ในพระพุทธศาสนา พุทธะ (ภาษาบาลี พุทฺธ แปลว่า "ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน")
หมายถึงบุคคลผู้ตรัสรู้อริยสัจ 4 แล้วอย่างถ่องแท้ และเรายังสามารถ
จำแนกพุทธะออกเป็น 3 แบบด้วยกันได้แก่
1.พระสัมมาสัมพุทธเจ้า บางทีเรียกสั้นๆเป็น "พระพุทธเจ้า"
   คือบุคคลที่ตรัสรู้ด้วยตนเองและสอนให้ผู้อื่นรู้ตาม
2.พระปัจเจกพุทธะ หรือ พระปัจเจกพุทธเจ้า
   (พระ-ปัด-เจก-กะ-พุด-ทะ-เจ้า) คือบุคคลที่ตรัสรู้ด้วยตนเอง
   แต่มิได้สอนให้ผู้อื่นรู้ตาม
3.อนุพุทธะ คือบุคคลที่ตรัสรู้เนื่องด้วยคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
   ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม ผู้ที่ตรัสรู้ด้วยด้วยเหตุนี้เรียกว่า พระสาวก

พระพุทธเจ้าเคยอุบัติเกิดขึ้นแล้วมากมายหลายพระองค์แต่ใน
คัมภีร์ชั้นอรรถกถาได้กล่าวถึงพระนามของพระพุทธเจ้ารวมกัน
ถึง ๒๘ พระองค์โดยแบ่งตามกัป ได้ดังนี้

กัปที่ 1 มีพระพุทธเจ้าอุบัติ 4 พระองค์ คือ
            พระตัณหังกร, พระเมธังกร, พระสรณังกร, พระทีปังกร
กัปที่ 2 มีพระพุทธเจ้าอุบัติ 1 พระองค์ คือ พระโกณฑัญญะ
กัปที่ 3 มีพระพุทธเจ้าอุบัติ 4 พระองค์ คือ พระสุมังคละ,
             พระสุมนะ, พระเรวตะ, พระโสภิตะ
กัปที่ 4 มีพระพุทธเจ้าอุบัติ 3 พระองค์ คือ พระอโนมทัสสี,
             พระปทุมะ, พระนารทะ
กัปที่ 5 มีพระพุทธเจ้าอุบัติ 1 พระองค์ คือ พระปทุมุตตระ
กัปที่ 6 มีพระพุทธเจ้าอุบัติ 2 พระองค์ คือ พระสุเมธะ, พระสุชาตะ
กัปที่ 7 มีพระพุทธเจ้าอุบัติ 3 พระองค์ คือ พระปิยทัสสี, พระอัตถทัสสี,
             พระธรรมทัสสี
กัปที่ 8 มีพระพุทธเจ้าอุบัติ 1 พระองค์ คือ พระสิทธัตถะ
กัปที่ 9 มีพระพุทธเจ้าอุบัติ 2 พระองค์ คือ พระติสสะ, พระปุสสะ
กัปที่ 10 มีพระพุทธเจ้าอุบัติ 1 พระองค์ คือ พระวิปัสสี
กัปที่ 11 มีพระพุทธเจ้าอุบัติ 2 พระองค์ คือ พระสิขี, พระเวสสภู
กัปที่ 12 มีพระพุทธเจ้าอุบัติ 5 พระองค์ คือ พระกกุสันธะ, พระโกนาคมนะ,
               พระกัสสปะ, และพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน
               คือ พระโคดม

และกัปนี้ ในอนาคตจะมีพระพุทธเจ้าอุบัติอีกหนึ่งพระองค์ คือ
พระศรีอารยเมตไตรย แต่มักเรียกกันว่า พระศรีอารย์ ซึ่งจะอุบัติ
ขึ้นหลังจากสิ้นศาสนา พระพุทธเจ้าของพระโคดมแล้ว

เราจะเรียกกัปนี้มีพระพุทธเจ้ามากถึง 5 พระองค์ว่า ภัททกัป
หรือ ภัทรกัป แปลว่า กัปเจริญ

คำว่า กัป คืออะไร
คำว่า กัป เป็นคำที่ใช้เรียกหน่วยของเวลาที่นานยาวมากโดยมีวิธีวัดดังนี้

วิธีนับกัป ชอให้คิดว่ามีภูเขากว้างใหญ่สูงโยชน์หนึ่ง (16 กิโลเมตร)
ทุกๆ 100 ปีมีเทวดานำเอาผ้ามาเช็ดถูบนภูเขาหนึ่งครั้งแล้วก็ไป
ถึงอีก 100 ปีจึงเอาผ้าลงมาเช็ดถูอีก และทำเช่นนี้ไปจนกว่าภูเขาลูกนี้
จะสึกจนหายไป จะใช้เวลาเท่ากับ 1 กัป หรือ ให้จิตนาการว่า มีหลุม
เป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสโดยมีความกว้างยาวลึก 1โยชน์ทุกด้าน ทุกๆ 100 ปี
มีเทวดานำเมล็ดผักกาดมาหยอดลงในหลุม 1 เม็ด เวลาเมื่อเมล็ดผักกาด
เต็มหลุมพอดี จะใช้เวลาเท่ากับ 1 กัป


ถึงแม้เราจะมีพระพุทธเจ้าที่อุบัติขึ้นที่เราพอจะทราบพระนามแล้วถึง
28 พระองค์แต่ถ้าเปรียบเทียบกับช่วงเวลาที่นานยาว(จนไม่อยากจะนับ
ว่าเราเองเกิดแล้วตายกันไปกี่ชาติ)ก็ต้องบอกว่า นานมากๆที่จะมี
พระพุทธเจ้าอุบัติขึ้นมาสักพระองค์หนึ่ง และเรามีผู้ที่เป็นพุทธะ
น้อยมาย ถ้าเปรียบเทียบกับจำนวนคนที่มีอยู่อย่างมากมาย ดังนั้น
ผมอยากจะบอกกับพวกเราทุกคนว่าถือว่าพวกเราโชคดีอย่างยิ่งที่เ
กิดมาแล้วได้พบกับพระพุทธศาสนา จึงอยากให้พวกเราชาวพุทธได้
หาเวลาศึกษาหลักธรรมของพระพุทธศาสนาให้เข้าใจเพื่อที่จะนำ
ไปใช้ในชีวิตประจำวันของเพื่อความอยู่เย็นเป็นสุขและความหลุดพ้นต่อไป

พระคุณของพระพุทธเจ้า
พระเคยทราบกับมาว่าพระพุทธเจ้า ของพระคุณที่ยิ่งใหญ่
3 ประการ คือ พระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณและ
พระมหากรุณาธิคุณ แต่วันนี้ผมขอนำเสนอพระคุณของ
พระพุทธเจ้าในอีกแบบหนึ่ง ที่พวกเราสามารถที่จะนำไป
ใช้เพื่อพัฒนาตัวได้ พัฒนาใจของเราได้

1. พระพุทธองค์ทรงเป็นนักสังเกต
2. พระพุทธองค์ทรงเป็นนักคิด
3. พระพุทธองค์ทรงเป็นผู้เสียสละผู้ยิ่งใหญ่
4. พระพุทธองค์ทรงเป็นนักเรียนที่ยอดเยี่ยม
5. พระพุทธองค์ทรงเป็นนักทดลองชั้นยอด
6. พระพุทธองค์ทรงเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์
   * เป็นผู้มีความสว่างด้วยปัญญารู้แจ้ง
   * เป็นผู้ที่ความไม่รู้และความหลงหายไม่
   * เป็นผู้มีความสะอาดบริสุทธิ์ปราศจาก ไม่มีกิเลส,อวิชชา,
       อกุลธรรมใดๆ
   * เป็นผู้มีความสุขสงบอย่างลึกซึ้ง ไม่มีสิ่งใดมารบกวน
   * เป็นผู้มีอิสระทางใจสูงสุด
   * เป็นผู้มีพระมหากรุณาต่อสัตว์โลก คือทรงสอนให้ผู้อื่น
       ได้รู้หลักธรรมที่พระองค์ได้รู้
7. พระพุทธองค์ทรงเป็นครูชั้นยอด คือสอนให้เรารู้แจ้งและ
    ละกิเลสได้โดยทรงมีอุบายที่เหมาะสมในการสอนบุคคลต่าง
8. พระพุทธองค์ทรงเป็นนักบริหารชั้นยอด โดยการจัดตั้งคณะสงฆ์
    และมีกฎระเบียบพระวินัยต่างๆ เป็นหลักสำหรับการปกครอง
    และทรงรู้จักตั้งพระสาวกมีความความสามารถเหมาะสมไว้ผู้งาน
9. พระพุทธองค์ทรงมีมนุษยสัมพันธ์ชั้นยอด โดยพระองค์ทรง
    เผยแผ่พระศาสนาและอยู่ร่วมกับศาสนาอื่นที่มีก่อนอยู่แล้วอย่างสันติ

แล้วในวันสำคัญอย่างนี้ เราควรปฏิบัติเราอย่างไร???
คำตอบเราที่สั้นและง่าย คือ ก็ความดีให้มากขึ้น(ปกติก็ควรจะทำ
ความดีอยู่แล้ว) ละสิ่งที่ทำแล้วไม่ดีกับตัวเราและกับคนรอบข้าง
โดยอาจจะมีกุศโลบายในใจว่า วันนี้ทำบาปรับโทษ 2 เท่าก็ได้

แล้วความดีที่ว่า หมายถึงอะไรบ้าง???
ความดีในที่นี้ ผม หมายถึง ความดีอะไรก็ได้ ไม่ได้หมายถึง
แค่เรื่องของการตักบาตรทำบุญตอนเช้า ไปเวียนเทียนตอนค่ำ
อย่างเดียว เราอาจจะทำดีกับคนข้างเช่น พ่อ-แม่, ปู่ยายตายาย,
 ญาติพี่น้อง, เพื่อนบ้านของเราก็ได้ หรือถ้าอยู่คนเดียวก็ทำความดี
ให้กับตัวเองก็ได้ครับ เช่น งดเหล้า-งดบุหรี่ หันมาออกกำลังกาย
 ทำให้จิตใจให้ผ่อนคลาย โล่งเบา มีสตินึกคิดในสิ่งที่ดีกันสักวัน

*** และที่สำคัญยิ่ง คือ อย่างลืมกราบพระในบ้านของ เราด้วยนะครับ
พระในบ้านคือ คุณพ่อคุณแม่ ญาติผู้ใหญ่ที่มีอุปการะคุณกับเรา ***

วันจันทร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

คณิตศาสตร์ - กราฟของฟังก์ชั่น4

วันนี้มาดูเรื่องกราฟของค่าสัมบูรณ์กันต่อนะครับ
คิดว่าน่าจะเป็นตอนสุดท้าย(แต่ไม่ท้ายสุด)ครับ
ก็เหมือนเดิมครับ อย่าลืมสังเกตและลองคิดคำนวณดู
ก็แล้วกันว่า ได้ตามกราฟหรือเปล่า



ภาษาอังกฤษ-คำศัพท์ทางศาสนา2

สำหรับวันนี้ก็จะเป็นภาค 2 ต่อจากเมื่อวาน
แต่วันนี้จะเป็น ภาษาอังกฤษ แบบภาษาบาลี-สันสกฤษ
ภาษาบาลี    Pali
ภาษาสันสกฤษ   Sanskrit

กรรม   karma (Sanskrit)
กรรม   kamma (Pali)

กวนอิม   Guan Yin
อานาปานสติ   anapanasati
     (การนั่งสมาธิด้วยการกำหนดลมหายใจ)
กาลามาสูตร    the Kalama Sutta
    (พระสูตรที่ว่าด้วยเรื่องของความเชื่อ – ความศรัทธา)
ความว่าง, สูญญตา  Sunyata 

เจ้าชายสิทธัตถะ Siddhartha
ชาวพุทธ   Buddhist
ต้นโพธิ์   Bodhi tree
ไตรสิกขา(ศีล – สมาธิ – ปัญญา)
     three practices (sila - samadhi - panya)

ทางสายกลาง    Madhyamā-pratipad (Sanskrit)
ทางสายกลาง    Majjhimā patipadā (Pali)
ธรรมจักร    Dharmachakra
       (สัญลักษณ์ของพุทธศาสนา)
ธรรมะ, พระธรรม    Dharma
ธรรมะของพระพุทธเจ้า   Buddha's Dharma
นะโม   Namo
ปฎิจจสมุปบาท    pratitya-samutpada
     (กระบวนการจิตของการเกิดขึ้นและดับไปแห่งทุกข์)

ปาฏิโมกข์     Patimokkha
    (ศีลของพระภิกษุ 227 ข้อและ ศีลของพระภิกษุณี 311 ข้อ)
พระโคตมหรือพระโคดม    Gautama Buddha
     (พระนามของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน)
พระเจ้าสุทโธทนะ King Shuddhodhana
    (พระบิดาของเจ้าชายสิทธัตถะ)

พระไตรปิฎก Tripitaka
พระไตรปิฎก-พระวินัยปิฎก  Vinaya Pitaka
     (พระวินัย ได้แก่ประมวลระเบียบข้อบังคับของ
      บรรพชิตที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติ)

พระไตรปิฎก-พระสุตตันตปิฎก Sutra Pitaka

       (พระสูตร ได้แก่ประมวลพระพุทธพจน์ที่พระพุทธเจ้า
       ทรงแสดงยังที่ต่างๆ ให้เหมาะกับบุคคล สถานที่
       และเหตุการณ์ มีเรื่องราวประกอบ)
พระไตรปิฎก- พระอภิธรรมปิฎก  Abhidhamma Pitaka
        (พระอภิธรรม ได้แก่ประมวลคำสอนที่เป็นหลักวิชาการล้วนๆ)
พระธรรม     Dhamma (Pali)
พระธรรม     Dharma (Sanskrit)

พระนางประชาบดีโคตมี    Maha Pajapati Gotami
      (ผู้ที่เลี้ยงดูเจ้าชายสิทธัตถะ)
พระนางยโสธรา      Yashodhara
      (พิมพา พระชายาของเจ้าชายสิทธัตถะ)
พระนางสิริมหามายา Queen Mayadevi
       (พระมารดาของเจ้าชายสิทธัตถะ)

พระนิพพาน   Nibbana (Pali)
พระนิพพาน   Nirvana (Sanskrit)
พระพุทธศาสนาแบบธิเบต   Tibetan Buddhism
พระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท   Theravada Buddhism
พระพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน   Mahayana Buddhism
พระพุทธศาสนาฝ่ายหินยาน    Hinayana Buddhism

พระภิกขุ    bhikkhu
พระภิกขุณี    Bhikkhuni
พระภิกษุ    bhikshu
พระภิกษุณี    bhikshuni

พระวินัย    Vinaya
พระศรีศากยมุนี     Buddha Shakyamuni
        (พระนามของพระพุทธเจ้า)

พระสงฆ์    Sangha
พระสาลีบุตร    Shariputra
       (พระอัครสาวกเบื้องขวา)
พระสูตร sutra (Sanskrit) ,
พระสูตร  sutta (Pali)

พระอรหันต์    arahant, arhat
พระอวโลกิเตศวร   Avalokiteshvara
โพธิ(ปัญญาความรู้แจ้ง)    bodhi
ลุมพีนี (ที่ประสูติ) Lumbini
ศากยะ (ชื่อตระกูลของเจ้าชายสิทธัตถะ) Sakya

ศาสนาพุทธ Buddhism
ศีล sila
สิทธัตถะ (ผู้ปรารถนาสิ่งใดย่อมได้สิ่งนั้น) Siddhartha
อนัตตา , ความไม่มีตัวตน anatta
อริยมรรค ariya-mak

อริยสัจ 4    Four Noble Truths
อริยสัจ 4 – ทุกข์(การมีอยู่ของทุกข์)   Dukkha
อริยสัจ 4 – นิโรธ(ความดับทุกข์)   Nirodha
อริยสัจ 4 – มรรค(หนทางนำไปสู่ความดับทุกข์)   Magga
อริยสัจ 4 – สมุทัย(เหตุแห่งทุกข์)   Samudaya

อวิชชา avidya
อุบาสก Upasaka