วันนี้ผมเอาคำกลอนไทยของเรามาฝากให้ได้อ่านกันผม เป็นกลอนที่เราเคยท่องและอ่านและหลายๆคนน่าจะพอจำกันได้
กลอน 20 ไม้ม้วน
ผู้ใหญ่หาผ้าใหม่ ให้สะใภ้ใช้คล้องคอ
ใฝ่ใจเอาใส่ห่อ มิหลงใหล ใครขอดู
จะใคร่ลงเรือใบ ดูน้ำใสและปลาปู
สิ่งใดอยู่ในตู้ มิใช่อยู่ใต้ตั่งเตียง
บ้าใบ้ถือใยบัว หูตามัวมาใกล้เคียง
เล่าท่องอย่าละเลี่ยง ยี่สิบม้วน จำจงดี
(ผมไม่ทราบที่มา)
แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งใจน้ำคน
มนุยษ์ที่รักอยู่สองสถาน บิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน เกิดเป็นคนคิดเห็นจึงเจรจา
แม้นใครรักรักมังชังชังตอบ ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา
รู้อะไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดคน
(จากเรื่องพระอภัยมณี – สุนทรภู่)
ความรักเหมือนโรคา บันดาลตาให้มืนมน
ไม่ยินและไม่ยล อุปสรรคคะใดใด
ความรักเหมือนโคถึก กำลังคึกผิขังไว้
ก็โลดจากคอกไป บ่ย่อมอยู่ ณ ที่ขัง
ถ้าหากปล่อยไว้ ก็ดึงไปด้วยกำลัง
ยิ่งห้ามก็ยิ่งคลั่ง บ่หวนคิดถึงเจ็บ
(จากบทละครเรื่อง “มัทนาพาธา” รัชกาลที่ 6)
เรื่อยเรื่อยมารอนรอน ทิพากรจะตกต่ำ
สนธยาจะใกล้ค่ำ คำนึงหน้าเจ้าตาตรู
เรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง นกบินเฉียงไปทั้งหมู่
ตัวเดียวมาไร้คู่ เหมือนพี่อยู่ผู้เดียวดาย
(กาพย์เห่เรือ ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์)
ใดใดในโลกล้วน อนิจจัง
คงแต่บาปบุญยัง เที่ยงแท้
คือเงาติดตามตัวตรัง ตรึงแน่น อยู่นา
ตามแต่บุญบาปแล้ ก่อเกื้อรักษา
(พระลอ ไม่ทราบผู้แต่ง)
ลูกเอยยามยากแล้ ยามมี
บรรพตเท่าธุลี เปรียบไว้
สุภาษิตพาที ท่านกล่าว
ดั่งแม่จักว่าให้ ลูกน้อยจงยิน ฯ
เพื่อนกินสิ้นทรัพย์แล้ว แหนงหนี
หาง่ายหลายหมื่นมี มากได้
เพื่อนตายถ่ายแทนชี- วาอาตม์
หายากฝากผีไข้ ยากแท้จักหาฯ
มารดากล่าวนี้ ควรนัก หนาเฮย
แต่ลูกใคร่เห็นประจักษ์ จิตแท้
จักไปเที่ยวสู่ทัก ถามไถ่
เผื่อสมคิดแม้ บ่ได้ตามกรรม ฯ
(ลิลิตนิทราชาคริต พระราชนิพนธ์รัชกาลที่ 5)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น