วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ตอบคำถามที่ยังไม่ได้ตอบ

ในส่วนนี้ผมขอเปิดเป็นหัวข้อสำหรับตอบคำถามที่ค้างไว้ครับ

*** 1 ***
ถึงน้อง Hicari Kizarahiya16
ที่บอกว่า หนูอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจอ่ะค่ะ พอดีหนูกำลังจะเรียนพอดีเลยมาอ่านก่อน ยิ่งอ่านยิ่งไม่เข้าใจอ่ะค่ะ

จะขอตอบน้องว่า ส่วนที่น้องอ่านเป็นการพูดถึง สมการ ในภาพรวมครับว่าสมการคืออะไรและเราพบสมการในลักษะใดบ้าง แต่ถ้าเนื้อหาเรื่องสมการน้อง ย้งไม่เข้าใจ ลองเข้าไปดู Clip VDO ในอีกเว็บของผมได้ครับที่ www.kruteeworld.com มีเรื่องสมการ ตั้งแต่พื้นฐานพอดีอาจช่วยให้น้องเข้าใจได้มากขึ้น แล้วอย่าลืมลองหาแบบฝึกหัดมาทำแยะๆครับจะได้เข้าใจ

*** 2 ***
มีผู้กถามโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับบัญญัติไตรยางศ์มาว่า
มีเด็ก 1 คนและรวมทั้งเพื่อน 6 คน ทำขนม 6 จานภายในเวลา 6 นาที ถ้าทำขนม 80 จานภายในเวลา 48 นาที จะใช้เด็กกี่คน
  โจทย์ข้อนี้ ขอตีความว่ามีเด็ก 6 คนนะครับเพราะจะได้เป็นเลขที่ลงตัว
หลักการทำโจทย์ลักษณะนี้ ต้องคำนึงว่า เป็นบัญัติไตรยางค์แบบส่วนตรงหรือส่วนกับด้วย
วิธีทำ
เด็ก 6 คน ทำขนม 6 จาน ภายในเวลา 6 นาที     ....(1)
ขนม 6 จาน ภายในเวลา 6 นาที ต้องใช้เด็ก 6 คน    ....(2)
ขนม 1 จาน ภายในเวลา 6 นาที ต้องใช้เด็ก 6/6  คน     ....(3)
ขนม 1 จาน ภายในเวลา 1 นาที ต้องใช้เด็ก (6/6) x 6 = 6 คน    ....(4)
ขนม 80 จาน ภายในเวลา 1 นาที ต้องใช้เด็ก 6 x 80 คน    ...(5)
ขนม 80 จาน ภายในเวลา 48 นาที ต้องใช้เด็ก 6 x 80 / 48 = 10 คน   ....(6)

ขอขยายบทแต่ละบรรทัดดังนี้ครับ
1. โจทย์
2. สลับเอาสิ่งที่โจทย์ถามไว้ด้านหลัง
3. แบบตรงส่วน งานน้อยใช้คนน้อย
4. แบบตรงกลับ เวลาน้อยใช้คนคนมากขึ้น
5. แบบตรงส่วน งานมากขึ้นใช้คนมากขึ้น
6. แบบตรงกลับ เวลามากขึ้นใช้คนคนน้อยลง

ตัวอย่างเพิ่มเติม
รถไถ จํานวน 5 คัน ช่วยกันทํางาน ในเวลา10 วัน ทํางานได้ 50 ไร่ เพื่อให้สามารถ
ทํางานได้เร็วขึ้น จึงเพิ่มขึ้นเป็น10 คัน ถามว่า จะทํางานได้100 ไร่ ภายในกี่วัน
วิธีทํา
รถไถ 5  คัน ทํางาน 50 ไร่  ในเวลา  10   วัน
รถไถ 1  คัน ทํางาน 50 ไร่  ในเวลา  10x5  วัน
รถไถ 1  คัน ทํางาน 1 ไร่    ในเวลา  10x5 / 50 = 1 วัน
รถไถ 10  คัน ทํางาน 1 ไร่  ในเวลา 1/10 วัน
รถไถ 10  คัน ทํางาน100 ไร่  ในเวลา (1/10) x 100 = 10 วัน

***เช่นเดียวกันนะครับเข้าไปดูตัวอย่างเพิ่มเติมได้ที่ www.kruteeworld.com***


*** 3 ***
สำหรับ คำถามที่ถามมาว่า ถ้า 1 g/y = 7.63e-5 แล้ว 2.442e-2 = .......g/y
ต้องขออภัยอย่างมากครับเพราะผมไม่เข้าใจสิ่งที่เขียนมาครับ
******

*** 4 ***
สำหรับโจทย์ปัญญาข้อนี้ฝากคำถามไว้นานแล้ว ลักษณะคำถามเป็นโจทย์สมการเชิงเส้น 2 ตัวแปร
ถามมาว่า
   ในการผลิตปลากระป๋อง มีแรงงานชาย 20 คน แรงงานหญิง 8 คน ผลิตปลากระป๋องได้ 30 ตัน และแรงงานชาย 15 คน แรงงานหญิง 7 คน ผลิตได้ 25 ตัน ถ้ามีแรงงานชาย 21 คน แรงงานหญิง 12 คน จะผลิตปลากระป๋องได้จำนวนกี่ตัน
(ช่วยแก้โจทย์หน่อยค๊าาา) ขอบคุณค่ะ

แนวการหาคำตอบที่ผมคิดจะเป็นแบบนี้นะครับ
ให้คนงานชาย 1 คน ผลิตสินค้าได้ x ตัน
ให้คนงานหญิง 1 คน ผลิตสินค้าได้ y ตัน

ดังนั้น  คนงานชาย 20 คน ผลิตสินค้าได้ 20x ตัน
และ  ให้คนงานหญิง 8 คน ผลิตสินค้าได้ 8y ตัน
จะได้ สมการคือ   20x + 8y = 30  ......1)      อ่านว่า สมการที่ 1
ในทำนองเดียวกัน
ให้คนงานชาย 15 คน ผลิตสินค้าได้ 15x ตัน
ให้คนงานหญิง 7 คน ผลิตสินค้าได้ 7y ตัน
จะได้ สมการคือ   15x + 7y = 25  .......2)     อ่านว่า สมการที่ 2
นำ 1) x 7 จะได้  140x  + 56y = 210   .....3)
นำ 2) x 8 จะได้  120x  + 56y = 200   ......4)
นำ 3) - 4) จะได้  20x = 10
                              x = 10/20 = 1/2
แทนค่า x = 1/2 ใน  1)
จะได้ 20(1/2) + 8y = 30
                 10 + 8y = 30
                         8y = 30 - 10
                           y = 20/8 = 5/2
นั้นคือ คนงานชาย 1 คน ผลิตสินได้ 1/2  ตัน
คนงานหญิง 1 คน ผลิตสินได้ 5/2  ตัน
ดังนั้น ถ้ามีคนงานชาย 21 คนและหญิง 12 คน จะผลิตสินค้าได้
เท่ากับ 21x + 12y = 21x(1/2) + 12x(5/2) = 21/2 + 60/2 = 81/2 =40.5 ตัน

ขอขอบคุณสำหรับทุกๆ คำถามด้วยครับ

วันอังคารที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

โรคภัยไข้เจ็บ(ของผม)

ผมต้องขออภัยทุกคนด้วยครับที่ผมหายไปจากการทำเว็บบล็อกนี้นาน เพราะผมเพิ่งหายจากอาการป่วย พักฟื้นและดีขึ้นจนหายเกือบจะเป็นปกติแล้ว บวกกับติดงานอื่นๆ เสียเวลาไปหลายนานพอสมควร

ผมจึงอยากจะบอกเล่าถึงประสบการณ์ในครั้งนี้ของผมให้ทุกคนได้รับทราบกัน เผื่อว่าจะได้ช่วยเตือนสติและป้องกัน ไม่ให้ใครอีกหลายคนต้องเป็นอื่นผม

โรคที่ผมเป็นนี้จริงๆแล้วไม่ได้เป็นโคที่เป็นอันตรายแรงร้าย แต่เป็นโรคที่สร้างความลำบากในการใช้ชีวิตพอสมควร และไม่ได้เป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อหรือเป็นโรคจากพันธุกรรมแต่อย่างไร แต่เป็นโรคที่เกิดจากพฤติกรรมหรือการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่ถูกต้องของตัวผมเอง โรคนั้นคือ โรคริดสีดวงทวาร หลายคนคิดว่าเป็นโรคที่น่าอายและหน้าขำ อย่างที่โฆษณาเคยเอาที่ทำ แต่ผมอยากมาบอกเล่าให้ทุกท่านได้รับทราบกัน

สาเหตุจากทำให้ผมเป็นโรคนี้คือ
1. การดื่มน้ำน้อย  ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน(หลายเดือน)
2. การทานอาหารที่ไม่ถูกสัดส่วน คือมีแป้งมาก เนื้อสัตว์มาก แต่มากกากใยน้อย
3. การทานอาหารดึกๆ (หลัง 3 ทุ่ม ไปแล้ว)
4. ทานอาหารเสร็จแล้วนอน
5. ขับถ่ายไม่เป็นเวลาหรือบางครั้งไม่ถ่ายหลายวัน ซึ่งปกติผมไม่เป็นอย่งนั้น
6. ตอนขับถ่ายออกแรงเบ่งค่อนค้างแรง (อันนี้สำคัญมาก)

ผลจากที่กระทำเช่นนั้นมาอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลาประมาณ 2 - 3 เดือน เห็นผลครับ ผมมีความรู้สึกว่าที่ทวารหนัก มีอากการหูรูดที่ทวารโป่งบวมออกมา ทุกครั้งหลังขับถ่าย ซึ่งต้องใช้นิ้วดันมันกลับเข้าไป  มีอาการขับเป็นเลือดบ้าง และที่สร้างความรำคาญให้กับผมมาก คือ อาการโป่งบวมของหูรูดนั้นบวมออกมาเองขณะที่ผมเดินไปทำงาน  แรกๆก็ยังดันมันกลับเข้าไปได้ แต่พอวันผ่านไปนานขึ้นหลายสัปดาห์มากขึ้น มันดันกลับเข้าไปอยากขึ้นมาก แต่ว่าไม่มีความรู้สึกเจ็บปวดอะไรนะครับ แต่รู้สึกรำคาญ เป็นมันทำให้ผมเดินได้ลำบากและที่สำคัญผมกลัวมันแตกกลางทาง แต่เป็นขนานนี้แล้ว ผมก็ไม่ยังประมาทไม่ย่อมไปหาหมอ รอจนรู้สึกปวดและเนื้อที่หูรูดโป่งบวมจนดันไม่เข้า คือ ดันเข้าไปแล้วสักครู่มันก็ดันออกมาเอง ไม่ว่าจะนั่งหรือนอน ผมเคยลองไปหาซื้อยามาทาดูเองเพราะคิดว่ามันจะหาย แต่มันไม่ช่วยอะไรมากนัก สุดท้ายเมื่อไม่ไหวจริงๆแล้ว ผมก็ต้องไม่พบคุณหมอที่โรงพยาบาลที่ 3 ครั้ง ครั้งแรกที่ผมไปเพราะมันโป่งบวมมาก เริ่มปวดเล็กๆและรู้สึกอึดอัดที่ก้น และพบว่า มีตุ่มสีขาวขุ่นโผ่ขึ้นมาที่หูรูด คุณหมอบอกเป็นนัยๆ ว่าผมมีริดสีดวง ครอบทั้งแบบภายนอกและภายใน แต่คุณหมอเพียงแต่ดันมันกลับเข้าไป แล้วนำยางมาดันเอาไว้ไม่ให้มันโป่งออกมา แต่มันไม่ช่วยอะไร มันก็ยังโป่งออกมาเหมือนเดิม แล้วให้เส้นใยอาหารแบบผสมน้ำดื่มมาให้ทาน แล้วนัดให้มาหาใหม่อีก 1 สัปดาห์ ในช่วง 2-3 วันแรกนั้นเป็นช่วงเวลาที่ทรมารมากพอสมควร เพราะนั่ง – นอนลำบากมากและเจ็บปวดรำคาญ แต่หลังจากที่ทานเส้นใยอาหาร ผมก็ดีขึ้น เพราะทำให้ขับถ่ายง่ายไม่ต้องออกแรงเบ่งมาก ก็คิดว่าริดสีดวงของผมหายดีแล้ว แต่พบไปหาหมอให้ครั้งต่อไปคุณหมอกลับบอกว่า อาการไม่ดีขึ้นเพราะตุ่มสีขาวขุ่นมันแตกต้องผ่าออกทันทีจะดีที่สุด ผมก็กลัวๆอยู่ครั้งแรกที่ได้ยิน แต่เมื่อทั้งคุณหมอและคุณพยาบาลให้ความมั่นใจว่า เป็นผ่าตัดเล็กใช้เวลาไม่นาน ไม่เจ็บมาก กลับบ้านได้ทันที่ ก็ตัดสินใจผ่าตัดในวันนั้นเลย หลังผ่าตัดในที่ยังนอนอยู่ที่ห้องผ่าตัดผมก็ขอผู้ช่วยคุณหมอในห้องดูสิ่งที่ผ่าออก ปรากฏว่า เป็นก้อนเลือดแห้งๆที่จับตัวเป็นก้อนขนาดใกล้ลูกเกดสีดำ 2 ก้อน
อาการอื่นๆที่ผมเป็นหลังการผ่าตัด
1. จะมีความรู้สึกเจ็บบาดแผลที่ผ่าตัดค่อนข้างมาก หลังจากที่ยาชาหมดฤทธิ์ลง ประมาณ 12 – 14 ชั่วโมง ผมจึ่งพยายามนอนนิ่งๆ หลังจากนั้นความเจ็บปวดเริ่มลดลง พอที่จะลุกขึ้นมาเดินเข้าห้องน้ำเองได้
2. หลังผ่าตัดจะมีเลือดไหลซึมออกมาจากบาดแผล ควรหาผ้ารองเตียงที่นอนให้เรียบร้อย
3. จะมีเลือดและน้ำเหลือง ไหลออกมาอยู่อีกประมาณ 1 สัปดาห์ ควรให้สำลีสะอาดๆซับไว้ก่อนและเปลี่ยนสำลีบ่อยๆ

หลังจากที่ออกจากห้องผ่าพักฟื้น คุณหมอให้ใบบอกสำหรับการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ผ่าตัดสิดสีดวงทราร ผมเลยนำมาเขียนบอกไว้ด้วย ด้งนี้

***ส่วนนี้เป็นข้อมูลจากคุณหมอครับ****
ข้อปฏิบัติหลังการผ่าตัอสิดสีดวงทราร(ภายนอก) (Extranal Hemorrohoid)
1. ดื่มน้ำมากๆ วันละ 8 แก้ว หรือดื่มจนปัสสาวะใส ถ้าปัสสาวะมีสีเข้ม แสดงว่าดื่มน้ำน้อยไป
2. ขับรถ ถ้าไม่จำเป็นให้งดไปก่อน เพราะอาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย แต่ถ้าจำเป็นก็อนุโลมได้เฉพาะใกล้ๆ
3. ทำงานได้ ถ้าแผลไม่เจ็บมาก แต่ถ้าได้พักสักครึ่งวันได้ก็ดี
4. TV กรุณางดนั่งดูนานๆ เดินไปเดินมาได้ตามอัธยาศัย
5. ถ่ายอุจจาระได้ตามปกติ (อย่าจงใจงดถ่ายอุจจาระ)
6. มีผ้าก๊อซ (Gauze) ยา (Sofratulle) ใส่อยู่ในทวาร จะดึงออกก็ได้หรือ ปล่อยให้หลุดเอง
7. อาบน้ำได้ตามปกติ
8. แช่ก้นในกะละมังที่ใส่น้ำอุ่นๆ (ไม่ใช้น้ำร้อน ใช้น้ำจากเครื่องทำน้ำอุ่น ให้น้ำร้อนพอร้อนมือ) ตอนเช้า -เย็น และทุกครั้งหลังถ่าย ครั้งละ 5 -10 นาที ไม่ควรใส่ยาหรือด่างทับทิม
9. ทำความสะอาดก้น โดยใช้น้ำธรรมดาจากก๊อก หรือเอาสำลีชุบน้ำเช็ดเบาๆ (ไม่จำเป็นต้องเจาะจงเอาน้ำไปต้มเสียก่อน)
10. ไม่ควรรับประทานยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) โดยที่แพทย์ไม่ได้สั่ง
11. ห้ามใช้ยาป้าย ยาเหน็บ ทุกชนิดที่แพทย์ไม่ได้สั่ง
12. ถ้าเลือดซึมๆ ออกมานิดหน่อย ไม่ต้องเป็นห่วง จะหยุดเองหรือใช้ผ้าก๊อซสะอาดๆกดไว้ประมาณ 3 – 5 นาที
13. ควรทานอาหารเสริมเพิ่มกาก Mucillin หรือ Fibrogel ให้ใส่น้ำประมาณครึ่งถวยชา คนแล้วรับรับประทานทันที (อย่าปล่อยให้พองจะรับประทานยาก) แล้วดื่มมาตาม 1-3 แก้ว (มากๆ)
14. ทานยาระบาย M.O.M หรือ Dulcolax รับประทานตามอัธยาศัย ถ้าธาตุ อ่อนกรุณางด
15. เพิ่มหรือลดหรืองดยา(ระบาย หรือ ไฟเบอร์ Fiber) ตามชอบใจ
สังเกตที่อุจจาระเป็นหลัก คือถ้าถ่ายเหลวควรลดหรืองดยา ถ้าถ่ายแข็งหรือต้องเบ่งมากก็เพิ่มยา และจะเพิ่มหรือลดค่อยทำค่อยไป
16. ปกติจะมีเลือดไหลซึมออกจากทวาร หรือจากริดสีดวงจะไม่มาก (คือ 5-10 cc ผสมลงไปในน้ำก็ดูแดงเต็มโถส้วมน่ากลัว ถ้าเปรียบเทียบกับสตรีมีประจำเดือดแต่ละครั้งจะเสียเลือดประมาณ 200cc บริจาดเลือดที่สภากาชาด ครั้งละ 300 – 500 cc)
อาหาร
ควรรับประทานอาหารตามปกติ หรือที่มีกากและเส้นใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ ข้าวกล้อง ธัญพืช (ไม่ควรทานข้าวต้มขาว จะทำให้ท้องผูก เพราะไม่มีกากใย) งดอาหารรสจัดมาก แต่รสเผ็ดนิดหน่อยได้ ดื่มเหล้านิดหน่อยได้ เช่น ไวน์(wine) 1 แก้ว ก่อนอาหาร
****** 

หลังจากที่กลับบ้านพักฟื้นที่บ้าน เพื่อนบ้านคนหนึ่งก็มาพูดคุยถามอาการว่าเป็นอย่างไรบ้าง แล้วก็เล่าว่าญาติของเขาก็เป็นโรคเดียวกัน แล้วไปได้สูตรยาสมุนไพรมาต้มทาน 3 หม้อก็ดีขึ้นจนเกือบหายดีแล้ว ผมเลยขอสูตรยาลองมาต้นทานดูก็พบว่าดีขึ้นมากพอสมควร ที่ผมกล้าลองทานยาสมุนไพรนี้เพราะโรคนี้ไม่มียาแผนปัจจุบันให้ทานอยู่แล้วจึงคงไม่มีปัญหายาตีกัน ซึ่งผมได้พิมพ์ออกไว้แจกทานที่สนใจได้แล้ว สามารถเข้ามาดาวน์โหลดได้ที่นี้ครับ ... คลิกที่นี้ครับ

การดูแลรักษาตัวของผม
1. ดื่มน้ำให้มากขึ้นระหว่างวัน
2. ลดปริมาณข้าวที่ทานให้น้อยลง เพิ่มผักให้มากขึ้น ทั้งผักที่ทานสดและแบที่ต้องทำให้สุกก่อน
3. ออกกำลังกาย ให้ได้อย่างน้อยก่อนเดินหรือยืนบิดเอวไปมา 10 – 20 ก็ยังดี
4. พยายามกินผลไม้ให้มากขึ้น
5. ตื่นให้เช้าขึ้นดื่มน้ำ 2 – 3 ถ้วยหรือจะผสมน้ำมะนาวด้วยก็ได้ เดินไปมาหรือใช้มือนวดท้อง สักครู่ แล้วลองเข้าห้องน้ำดู จะรู้สึกว่าขับกถ่ายได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องออกแรงเบ่ง
6. หลังถ่ายเสร็จแช่ก้นในน้ำอุ่นทันที และควรแช่ก้นทั้งเช้า – เย็น

เป็นอันว่าตอนนี้โรดริดสีดวงของผมหายเป็นแล้วส่วนหนึ่งเหลืออีกส่วนที่คือริดสีดวงภายในครับ ค่อยสังเกตอาการต่อไป

สิ่งที่ผมได้จากประสบการณ์ในครั้งนี้ทำให้ผมได้สติกลับมาดูเราต้องดูแลตัวเองให้ดีขึ้น จะได้ไปต้องเสียเงินหลานหมื่นบาท เสียเวลาและเจ็บตัว เพียงแค่เราดูแลตัวเองให้มีในเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น อาหารการกิน การออกกำลังกาย การพักผ่อน เท่านี้ก็ห่างไกลโรคหลายโรคแล้ว แต่ผลพลอยได้ในครั้งนั้ก็มีนะครับคือ ทำให้ผมน้ำหนักลดลงไปหลายกิโลกรัม ในช่วงเวลา 2 เดือน