สมการ คือ ประโยคสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ที่ทำให้เรารู้ว่าทั้ง 2 ข้าง
(ด้านซ้ายและด้านขวา) มีค่าเท่ากัน โดยถูกคั่นไว้ด้วยเครื่องหมายเท่ากับ " = " เช่น
1) 5 = 4 + 1
2) 10 + 7 = 17
3) x + 3 = 20
4) 2x + 1 = 5 - x
ก่อนที่จะลงลึกเรื่องการแก้สมการ ผมอยากจะให้ทุกคนเห็นภาพรวมการนำสมการไปใช้งานให้ส่วนต่างๆ ก่อนนะครับ โดยทั่วไปแล้วเราใช้สมการใน 4 ลักษณะคือ
1. ใช้แสดงขั้นตอนในการคำนวณต่างๆ เช่น
จงหาผลลัพท์ของ
1) (3 + 5) x 2 = 8 x 2 = 16
2) (2 x 4) + (5 x 3) - 10 = 8 + 15 - 10 = 23 - 10 = 13
ในลักษณะนี้จะเห็นได้ว่า เป็นการใช้เครื่องหมายเท่ากับ
เขียนต่อๆกันไปจนได้คำตอบสุดท้าย
ข้อระวัง ขอให้สังเกตการเขียนต่อไปนี้
3 + 5 + 10 - 4 = 8 + 10 = 18 - 4 = 14
การเขียนขั้นตอนแบบนี้เป็นการเขียนที่ไม่ถูกต้อง
เพราะไม่ได้เขียนตัวเลขที่ยังได้คำนวณคือ 4
ซึ่งจะทำให้ความหมายผิดเพี้ยนไปเพราะไม่ได้เขียนตัวเลขที่ยังได้คำนวณคือ 4
และไม่ถูกต้องตามความหมายของสมการด้วย
2. ใช้ในโจทย์การหาค่าตัวแปรที่เรายังไม่รู้ค่า (หรือแก้สมการ) เช่น
จงแก้สมการเพื่อหาค่าของ x
3x + 1 = 10
3x + 1 - 1 = 10 - 1
3x = 9
x = 3
ในลักษณะนี้จะเห็นได้ว่า เป็นการใช้เครื่องหมายเท่ากับ
เขียนเป็นบรรทัดๆลงมาจนได้คำตอบสุดท้าย
3. การใช้สมการเพื่อแสดงสูตรต่างๆ เช่น
สูตร ในการหาพื้นที่สี่เหลี่ยม = ฐาน x สูง
หรือ A = bh
4. การสมการแสดงความสัมพันธ์ของต้วแปรตัวต่างกับตัวเลข เช่น
1) y = 2x - 5
2) y = 3x(x + 1)
3) y = x2+6
นี้คือภาพรวมของการนำสมการไปใช้ในที่ต่างๆ ที่เราพบเห็นโดยไปครับ