1) I ____ a big house.
1) have 2) has 3) have to 4) has to
เฉลยข้อที่1
ประโยคนี้แปลว่า ฉันมีบ้านหลังใหญ่(อยู่หลังหนึ่ง)
have = มี, กิน (ใช้กับประธานพหูจน์และ I)
has = มี, กิน (ใช้กับประธานเอกพจน์)
have to = ต้อง (ใช้กับประธานเอกพจน์และ I)
has to = ต้อง(ใช้กับประธานเอกพจน์)
หมายเหตุ โดยปกติถ้าไม่มีคำที่ใช้ บอกเวลาใดๆ
ให้ถือว่าประโยคนั้นเป็นปัจจุบัน
2) He ___ three computers in his room.
1) have 2) has 3) have to 4) has to
เฉลยข้อที่2
ประโยคนี้แปลว่า เขามีคอมพิวเตอร์ 3 เครื่องในห้องของเขา
have = มี, กิน (ใช้กับประธานพหูจน์และ I)
has = มี, กิน (ใช้กับประธานเอกพจน์)
have to = ต้อง (ใช้กับประธานเอกพจน์และ I)
has to = ต้อง(ใช้กับประธานเอกพจน์)
3. She ___ a lot of friends.
1) have 2) has 3) had 4) There is
เฉลยข้อที่2
ประโยคนี้แปลว่า เธอมีเพื่อนมากมาย
have = มี, กิน (ใช้กับประธานพหูจน์และ I)
has = มี, กิน (ใช้กับประธานเอกพจน์)
had = มี (เป็นกริยาช่อง2 ของ have, has ใช้กับประธานทุกตัว )
There is = มี (ใช้เป็นขึ้นต้นประโยค)
4. Usually we ___ lunch together.
1) have 2) has 3) had 4) There is
เฉลยข้อที่1
ประโยคนี้แปลว่า โดยปกติพวกเราทานมื้อเที่ยงด้วยกัน
have = มี, กิน (ใช้กับประธานพหูจน์และ I)
has = มี, กิน (ใช้กับประธานเอกพจน์)
had = มี ใช้กับประธานทุกตัว
has/have had had
There are = มี (ใช้เป็นขึ้นต้นประโยค)
คำศัทพ์อื่นๆ
together = ร่วมกัน, ด้วยกัน
หมายเหตุ Usually = โดยปกติ
เป็นคำกริยาวิเศษณ์(Adv.)บอกความถี่
สามารถนำมาข้อต้องประโยคได้
5. I ___ dinner at home last week.
1) have 2) has 3) had 4) did
เฉลยข้อที่3
ประโยคนี้แปลว่า ฉันทานข้านกับครอบครัวสัปดาห์ก่อน
คำว่า last week = สัปดาห์ก่อน
ทำรู้ว่าเป็นเหตุการณ์ในอดีต
had = มี ใช้กับประธานทุกตัว
has/have had had
did = ทำ ใช้กับประธานทุกตัว
do, does did done
คำศัทพ์อื่นๆ
at home = ที่บ้าน, กับครอบครัว
6. Yesterday John ___ many things to do.
1) walked 2) played 3) had 4) worked
เฉลยข้อที่3
ประโยคนี้แปลว่า เมื่อวานนี้จอห์นมีงานหลายอย่างต้องทำ
คำว่า Yesterday = เมื่อวานนี้
ทำรู้ว่าเป็นเหตุการณ์ในอดีต
walked = เดิน ใช้กับประธานทุกตัว
walk walked walked
played = เล่น ใช้กับประธานทุกตัว
play played played
had = มี, ทาน ใช้กับประธานทุกตัว
worked = ทำงาน ใช้กับประธานทุกตัว
work worked worked
คำศัทพ์อื่นๆ
many = มาก
thing = สิ่งต่างๆ
หมายเหตุ
John เป็นชื่อเฉพาะต้องขึ้นด้วยอักษรตัวใหญ่เสมอ
กริยาช่อง2 โดยทั่วไปจะใช้ได้ประธานทุกตัว ยกเว้น
was = เป็น, อยู่, คือ (ใช้กับประธานเอกพจน์)
were = เป็น, อยู่, คือ (ใช้กับประธานพหูพจน์)
7. My friends _____ 2 cars.
1) have 2) has 3) eat 4) must
เฉลยข้อที่1
ประโยคนี้แปลว่า เพื่อนฉันหลายคนมีรถ 2 คัน
ในข้อนี้ friends เป็นรูปพหูพจน์ของ friend
คำศัทพ์อื่นๆ
many = มาก
thing = สิ่งต่างๆ
eat = กิน, ทาน
must = ต้อง (เป็นกริยาช่วย)
เพิ่มเติม
คำนามที่นับได้เมื่อเป็นพหูพจน์ต้องมี
การเปลี่ยนรูป โดยการ
เติม -s เช่น
chair --> chairs = เก้าอี้
boy --> boys = เด็กผู้ชาย
girl --> girls = เด็กผู้หญิง
book --> books = หนังสือ
เติม -es เช่น
watch --> watches = นาฬิกา
dish --> dishes = จาน
class -->classes = ห้องเรียน
tax --> taxes = ภาษี
potato = potatoes = มันฝรั่ง
เปลี่ยน f, fe เป็น v แล้วเติม -es
wife --> wives = ภรรยา
knife --> knives = มีด
half --> halves = ครึ่ง
thief --> thieves = ขโยม
มีการเปลี่ยนรูปไปเลย
child --> children = เด็กๆ
man --> men = ผู้ชาย
tooth --> teeth = ฟัน
mouse --> mice = หนู
ส่วนคำนามที่นับไม่ได้จะมีแต่รูปเอกพจน์
gold = ทอง water = น้ำ
air = อากาศ oil = น้ำมัน
gas = ก็าซ rice = ข้าว
love = ความรัก anger = ความโกรธ
ผมได้ทำเว็บไซด์แฝดน้อง http://kruteeworld.siamvip.com/
มีเนื้อหาให้อ่านและมีใบงานให้ดาวน์โหลดกันฟรี
เชิญทุกท่านไปเยี่ยมชมกันได้ครับ
ทำให้รู้คำศัพท์ใหม่ๆๆ
ตอบลบอรญา อ่อนน้อม บางประทุนนอก
He has to
ตอบลบถูกต้องไหมครับ
ก็ถูกต้องแล้วละครับแต่
ตอบลบHe has to + v1 แปลว่า เขาต้องทำอะไร(สักอย่าง)
จะต้องตามด้วยคำกริยาช่องที่1(v1) เสมอครับ
เอาไว้จะเขียนเรื่องของคำว่า ต้อง ในภาษาอังกฤษให้อ่านอีกที่นะครับ
ที่ถามคำไม่ทราบครูพิมพ์มีที่ผิดหรือเปล่าครับ...???
ถ้ามีช่วยบอกด้วยครับ
น่าจะเพิ่มคำศัพท์เยอะขึ้นนะครับ
ตอบลบ