วันจันทร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คำศัพท์ที่มีคำว่า-ร้าน

ห่างหายไปนานเลยครับ....แต่ตอนนี้กลับมาแล้วครับ
กับคำศัพท์ที่จัดให้คุณดูเป็นหมวดหมู ครั้งเอาหมวดที่มี
คำว่า ร้าน.... ก็แล้วกันนะครับ เพราะเป็นคำที่อยูใกล้ตัวเรา
มาเริ่มกันเลยดีกว่า....

ร้านกาแฟ    cafe
ร้านกาแฟ    coffee shop, coffeehouse
ร้านขายขนมปัง    bakery , bakeshop , pastry shop
ร้านขายของชำ     grocer's shop, grocery store
ร้านขายเครื่องดื่ม    refreshment stall, drinks stall
ร้านขายเครื่องแต่งกายของผู้ชาย    haberdashery

ร้านขายเครื่องแต่งกายที่นำสมัย    boutique
ร้านขายเครื่องเพชรพลอย    jeweler
ร้านขายดอกไม้    florist
ร้านขายผักผลไม้สด    greengrocery
ร้านขายยา   drugstore, pharmacy, chemist

ร้านขายสินค้าจากโรงงาน   outlet
ร้านขายเสื้อผ้า    clothes shop, fashion house
ร้านขายเหล้าขนาดเล็ก    public house
ร้านค้า (เช่น ร้านเสริมสวย)   parlor
ร้านค้าปลีก    retail shop, retail store

ร้านเครื่องเขียน   stationery store
ร้านซักรีด    laundry
ร้านซักแห้ง   dry-cleaner's,
ร้านต้นไม้   pergola
ร้านตัดผม   barber's,
ร้านตัดเสื้อ  tailor's shop, dressmaking's shop

ร้านตัวแทน   dealer
ร้านทำผม    barber's , barbershop
ร้านสหกรณ์   cooperative
ร้านสะดวกซื้อ   Convenience Store
ร้านเสริมสวย beauty salon , beauty shop
ร้านหนังสือ   bookshop, bookstore

ร้านหนังสือเล็ก, แผงหนังสือ   bookstall news-stand, newsstand
ร้านหมอคลินิก   clinic
ร้านเหล้า, บาร์   bar
ร้านเหล้า, ผับ   pub
ร้านอาหาร, ภัตตาคาร   restaurant , bistro, cafeteria
ร้านอาหารบริการตนเอง   cafeteria
ร้านอาหารเล็กๆ   diner

* * * * *

วันเสาร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554

มาเล่นเกมกันดีกว่า

วันนี้ผมค่อนข้างเหนื่อยๆ ครับ เพราะสอนหนังสือทั้งวัน
ไม่เลยไม่ขอนำเนื้อหาอะไรมาให้..คุณๆได้อ่านกัน...
เรามาเล่นเกมกันดีกว่า...เป็นเกมโบราณไม่แล้วสำหรับใคร
หลายๆ คนแต่ก็ลองเล่นกันดูนะครับ...
เกมนี้เล่นไม่ยากเย็น อะไร แค่มองจุดที่ 2 ภาพไม่เหมือน
กันก็พอ ... ใครหาได้ช่วยบอกด้วยว่ามีจุดที่ต่างกันอยู่กี่ที่

Everyone can join with me by finding the different points
of 2 pictures.  3....2....go...


ชอบกันหรือเปล่า... ขอความเห็นหน่อย ...

วันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2554

กลอนธรรมะ3

ผมเหลือบไปดูปฏิทินเพียงจะรู้ว่าวันนี้เป็น วันพระ เลยขอนำ
ธรรมะคำกลอนดีๆ จากหนังสือบรมธรรม 35
ชุดคู่มือเพื่อการสร้างสรรค์ชีวิต คติธรรมแห่งฟ้าอภัยบาป (1)
สมาคมเผยแผ่คุณธรรม “เต็กก่า” จีจินเกาะ
มาให้ได้อ่านกันเพลินๆ บวกกับการได้ข้อคิดสะกิดดีๆ
เพื่อนำไปใช้ในชีวิตประจำวันครับ

หน้า 35
** ธรรมแห่งการเป็นพระโสดาบัน**
วุฒิธรรม   กำหนดรู้ดูตนเอง
สี่  ประการครบถ้วนเห็นเป้าหมาย
เหตุ  ผลหลักประจักษ์ชัดนัยมากมาย
แห่ง  ความหมายที่แท้แห่งความจริง
ความ รู้ถูกรู้ตรงรู้ชัดแท้
เจริญ ใจเป็นแน่แท้แก่ชายหญิง
ของ วัตถุสิ่งใดไปหลงกิน
ชีวิต ปิ่มด้วยกามเกียรติเป็นทุกภัย
พึง นำพาปัญญาเกิดประเสริญสุด
พิศ เห็นเถิดเป็นมนุษย์อย่างสงสัย
หลัก เหตุผลจงรู้ชัดประจักษ์ใจ
ธรรม น้อยใหญ่ก่อให้เกิดความงอกงาม

รู้คบหาสมาคมกับบัณฑิต         ย่อมบัณฑิตพาไปให้ถึงผล
หมั่นสนทนากับผู้รู้บัณฑิตชน  ย่อมพาให้ปัญญาอุดมผลสมบูรณ์
รู้สดับรับฟังหลักธรรมะ            หมั่นศึกษามีมานะจะส่งสูง
จงพากเพียรเรียนรู้ผู้ทรงภูมิ    ก็เพิ่มพูนปัญญาพารู้จริง
รู้ขบคิดพิจารณาหาเหตุผล      หมั่นคิดค้นอุดมปัญญาว่ายอดยิ่ง
จึงวิชารู้ชัดและรู้จริง                รู้ทุกสิ่งโดยถูกตรงตามวิธี
รู้ปฏิบัติโดยสมควรโดยสอดคล้อง  ให้ถูกต้องตรงตามทางวิถี
หมั่นปฏิบัติตามหลักธรรมและความดี   ได้เช่นนี้นับว่ามีวุฒิธรรม
นี้เป็นธรรมนี้เป็นทางสู่ความเจริญ     ใครดำเนินเดินตามได้เป็นฉนำ
ย่อมรุ่งเรืองย่อมงอกงามอยู่โดยธรรม   เป็นมงคลอันเลิศล้ำนำชีวิต

หลักวุฒิธรรมสี่ คือ หลักธรรมแห่งความเป็นผู้มีปัญญาหรือ
ธรรมแห่งการเป็นพระโสดาบัน ได้แก่
1. รู้คบหาสัตบุรุษบัณฑิตชน คือ หมั่นเสวนากับผู้รู้ ผู้ส่งคุณ
2. รู้สดับรับฟังสัทธรรม คือ หมั่นน้อมนำตั้งใจไปเล่าเรียนศึกษา
    ค้นคว้าหาความรู้ที่ถูกตรงชัดเจน
3. รู้ทำใจให้แยบคาย คือ หมั่นคิดพิจารณาหาหลักเหตุผลให้ถูกต้องตามวิธี
4. รู้ปฏิบัติประพฤติธรรมโดยสมควรแก่ธรรม หมั่นประกอบกิจโดยสอดคล้อง
    พอดีแก่ขอบเขต ความหมาย เป้าหมาย โดยตริตรองนำไปใช้ให้ถูกต้อง

ส่วนคำว่า พระโสดาบัน แปลว่าอะไรและหมายถึงใคร
ผมจะมาขยายความให้อ่านกันในครั้งต่อๆไปครับ

* * * * *

คำศัพท์ที่คำมาว่า proof

กลับอีกครั้งแล้วครับ...กับคำศัพท์ภาษาอังกฤษ หลังจากที่
ห่างหายไปช่วงหนึ่ง วันนี้เอาคำที่มีคำว่า proof อยู่ด้วยมาให้ดูกัน
เป็นคำที่มักจะพบในฉลากหรือข้างกล่องของสินค้าต่างๆ
มาเริ่มกันเลยครับ....

proof การพิสูจน์, หลักฐาน, ที่ผ่านการทดสอบ, ซึ่งต้านทานได้

airproof        กันลม, ปิดมิดชิด
ball-proof    กันกระสุนปืน
bulletproof  ป้องกันกระสุน
childproof   ที่พิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นอันตรายต่อเด็ก
cold-proof   ซึ่งกันหนาวได้

fireproof      ทนไฟ
foolproof    ไม่มีภัย,ไม่มีอันตราย,ไม่มีการล้มเหลว
leak-proof   ที่ไม่รั่ว
lightproof    กันแสง, ซึ่งไม่ให้แสงผ่านได้
mothproof    กันแมลง
noise-proof   เก็บเสียง

rainproof       ที่กันฝนได้
rustproof       กันสนิม
shellproof     กันกระสุนปืนใหญ่
shockproof   กันกระแทก
shrink-proof  ไม่หด
soundproof   กันเสียง
sun-proof      กันแดดได้

waterproof watch  นาฬิกากันน้ำ
waterproof       กันน้ำได้
waterproofing  สารกันน้ำ
wear-proof       ทนต่อการสึกหรอ
weatherproof   ทนต่อสภาพอากาศ

proof by contradiction  การพิสูจน์โดยข้อขัดแย้ง
proof by exhaustion      การพิสูจน์โดยแจงกรณี
proof by induction    การพิสูจน์โดยอุปนัย
proof of age    การพิสูจน์อายุ
proof of birth  การพิสูจน์การเกิด

proof of loss          การพิสูจน์ความเสียหาย
proof of marriage การพิสูจน์การสมรส
proof paper    กระดาษบรู๊ฟ
proof-less      ไม่มีหลักฐาน
proof-mark     ตราประทับว่าพิสูจน์หรือทดสอบแล้ว

proofread     พิสูจน์อักษร, ตรวจคำผิด
rigorous proof   การพิสูจน์อย่างเคร่งครัด
under-proof       ซึ่งมีจำนวนอัลกอฮอลน้อยกว่ามาตรฐาน

* * * * *

วันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2554

SWOT Analysis (ตัวเอง)

SWOT Analysis คืออะไร

SWOT Analysis เป็นการวิเคราะห์เพื่อหาข้อดี – ข้อด้อยของสิ่งต่างๆ
เพื่อหาจุดยืน (standpoint) และพัฒนาสิ่งนั้นให้ดีขึ้นโดยทั่วไป
เราใช้หลักการนี้มาใช้ในทางธุริกิจแต่เราจะลองทำมาวิเคราะห์
ตัวเองดูก่อนได้ แต่ลองมาดูความหมายของคำว่า SWOT แบบง่ายกันก่อน

SWOT มาจากคำศัพท์ทั้งหมด 4 คำ คือ
S - Strength หมายถึง จุดแข็งหรือข้อดีเมื่อเทียบกับอีกสิ่ง
W – Weakness หมายถึง จุดอ่อนของเราเมื่อเทียบกับอีกสิ่ง
O – Opportunity หมายถึง โอกาส คือ ปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้
T- Threat หมายถึง อุปสรรคหรือปัญหา คือ ปัจจัยภายนอกควบคุม
                  ไม่ได้ที่อาจจะเกิดขึ้น

ในด้านธุรกิจ
SWOT Analysis สามารถนำใช้ในการพิจารณาองค์กรว่ามีประสิทธิภาพ
ในการทำงานมากน้อยเพียงใดและจุดใดบ้างที่เป็นข้อด้อยที่ต้องปรับปรุง
 เพื่อการแข่งขันทางธุรกิจ

S - Strength หมายถึง จุดแข็งของเราเมื่อเทียบกับคู่แข่ง เช่น
 สิ่งที่เรามีแต่คู่แข่งไม่มี อาจจะเรื่องของเงินทุน, แหล่งวัตถุดิบที่ราคาต่ำกว่า,
 รวมทั้งการทราบความต้องการของลูกค้าด้วย เป็นต้น
W – Weakness หมายถึง จุดอ่อนของเราเมื่อเทียบกับคู่แข่งขัน เช่น
ตั้งอยู่ในทำเลที่ไม่ดี, มีเครื่องจักรที่เก่า, บุคลากรยังขาดความรู้ในการทำงาน,
ไม่มีความสามารถในการสื่อสารกับลูกค้า เป็นต้น
O – Opportunity หมายถึง โอกาส คือ ปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้
ที่ทำให้ สินค้าเราขายได้มากขึ้น เช่น อยู่ใกล้ทางด่วนหรือจุดกระจายสินค้า,
การมีเครือค่ายที่ในกลุ่มต่างๆ เป็นต้น
T- Threat หมายถึง อุปสรรค คือ ปัจจัยภายนอกควบคุมไม่ได้
เป็นสิ่งที่ทำให้สินค้าเราขายได้น้อยลง เช่น การจราจรที่ติดขัดเป็น
ปัญหาในการขนส่ง, การเกิดน้ำท่วม เป็นต้น

การทำ SWOT Analysis ตัวเอง
คราวนี้ลองนำ SWOT Analysis มาวิเคราะห์ตัวเองกับ
เรื่องการสอบปลายเทอมหรือเข้ามหาวิทยาลัย
S - Strength หมายถึง ข้อดีที่เรามี เช่น เป็นคนหัวไว, จำเนื้อหาต่างได้ดี
W – Weakness หมายถึง ข้อเสียที่เรามี เช่น ไม่ชอบอ่านหนังสือ,
มีบ้างวิชาที่เรียนไม่ชอบและเรียนไม่รู้เรื่องเลย, สายตาไม่ดี,
ไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้
O – Opportunity หมายถึง มีคนอื่นเต็มใจสอนหรือแนะนำให้
T- Threat หมายถึง ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น เช่น อาจจะไม่สบายก่อนสอบ,
นอนตื่นสาย, ฝนตก

การทราบในสิ่งต่างๆเหล่านี้ทำให้เรารู้ถึงความสามารถของตัวเอง
ในภาพรวมแล้วนำไปสู่การปรับปรุงตัวเองให้ถูกทาง เพื่อให้พร้อม
กับการสอบ หรือการทำสิ่งต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

* * * * *

วันอังคารที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2554

ตอบคำถาม-คุณเอ

สำหรับปัญญาของคุณเอ ที่ต้องการที่จะเรียนต่อปริญญาโท แล้วต้องการรื้อฟื้น
ความรู้ด้านคณิตศาสตร์ใหม่ ก็มีคำแนะนำในเบื้องต้นอย่างนี้ครับ ...
ด้านความความพื้นฐานทั่วไป ได้แก่
1. การบวก-ลบ-คูณ-หาร
2. การคำนวณตัวเศษเลขในแบบต่างๆ ในเช่น จำนวนลบ, เศษส่วน
    โดยเฉพาะเรื่องของ ทศนิยม

ด้านเนื้อหาบทเรียน ที่จำเป็นต้องมีความรู้พื้นฐานในขณะที่เรียน เช่น
1. เรื่องของสมการและระบบสมการ
2. เลขยกกำลัง
3. พหุนามและการแยกตัวประกอบ
4. แนวคิด(concept) พื้นฐานของเซต
4. ฟังก์ชั่น
5. แคลคูลัส
6. สถิติ ** (สำคัญมากเพราะต้องใช้เรียนต่อและทำวิจัย)

ด้านความรู้ที่จะใช้สอบเข้า ดูหัวข้อได้จากหนังสือแนวข้อสอบเข้า
เรียนต่อระดับปริญญาโท

ส่วนตำราที่ใช้เพื่อการเตรียมตัวก็หาดูได้จากหนังสือแนวข้อสอบ
ปริญญาโททั่วๆไปก่อน แล้วก็การฝึกลงลึกก็ดูจากหนังสือคู่มือระดับมัธยม

ก็ลองดูตามนี้ก่อนนะครับ... ถ้าอยากทราบอะไรเพิ่มเติมก็ถามมาได้ครับ
ถ้าพอที่จะบอกหรือช่วยอะไรได้...ก็ยินดีครับ...

วันพฤหัสบดีที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คำศัพท์ในชีวิตประจำวัน-01

   คำศัพท์ภาษาอังกฤษมีอยู่รอบต้วของเราครับ และนับวันมันก็เข้ามา
อิทธิพลกับชีวิตเรามากขึ้นเลยๆ ดังนั้นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ
จึงเป็นสิ่งจำเป็นในโลกยุคนี้ ผมจะขอยกตัวอย่างเรื่องผมเห็นเองมาดู

    เมื่อเดือนก่อนผมไปซื้อของที่ห้างพันธ์ทิพย์มาทำสื่อการสอน
เมื่อผมมีเดินผ่านไปที่ร้านๆหนึ่ง พนักงานก็ยื่นใบปลิวแนะนำสิ่งค้ามาให้
ผมลองอ่านดูปรากฏว่า มันมีแต่ภาษาอังกฤษทั้งหมด ผมเริ่มสังสัยว่า
เขาขายของให้คนไทยหรือชาวต่างกันแน่ แต่ยังโชคดีอยู่บ้างที่ผมก็พอรู้
ภาษาอังกฤษอยู่บ้าง ผมเลยไม่รู้สึกอะไร แต่มันทำให้ผมคิดถึงคนที่ไม่รู้
ภาษาอังกฤษเลย...และนั้นเป็นที่มาของหัวข้อในตอนนี้

คำศัพท์ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน

a greener planet = โลกที่สะอาดขึ้น
a lower cost = ต้นทุนที่ต่ำลง
advantage = ข้อได้เปรียบ, ข้อดี, ผลประโยชน์
after sales services = การบริการหลังการขาย
anti - counterfeit = ป้องกัน/ต่อสู้กับของปลอม
award-winning printer = เครื่องพิมพ์ที่ได้รับรางวัล

background = พื้นหลัง
beautifully designed for home use
      = ออกแบบอย่างสวยงามสำหรับการใช้ที่บ้าน
bigger cost saving = ประหยัดต้นทุนมากขึ้น

capacity = ความจุ
ceaseless = ไม่รู้จักจบ, ไม่มีที่สิ้นสุด
collation = การตรวจเทียบเอกสาร, การตีราคาทรัพย์มรดก
color office printer =เครื่องพิมพ์สีสำหรับสำนักงาน
color printer =เครื่องพิมพ์สี
connectivity = การต่อเชื่อม, สภาพเชื่อมโยง
consumption = การบริโภค, ปริมาณการปริโภค
custom size = ขนาดที่กำหนดเองได้

dedication = การอุทิศ
deliver = ส่งของ
denser = ควบแน่น, ย่นย่อ
description = คำอธิบาย
double-sided printing = การพิมพ์ 2 หน้า

emission = ปล่อยออก, ปลดปล่อย
energy = พลังงาน
engineer = วิศวกร
enterprise = วิสาหกิจ, บริษัท, ความกล้าเสี่ยง
envelope = ซองจดหมาย
exceptional quality = คุณภาพที่ดีเลิศ
expansion card = บัตรเพิ่มความสามารถ

feature = คุณสมบัติพิเศษ
finance = การเงิน
general business = ธุรกิจทั่วไป
guarantee = รับประกัน
heritage = มรดก

illegal = ที่ผิดกฎหมาย
improvement = การปรับปรุง, การแก้ไข
innovation = นวัตกรรม
inspiration = แรงบันดาลใจ, การสูดลมหายใจ
insurance = การประกันภัย
interpolated = สอดแทรกคำลงในข้อความ

material = เอกสารประกอบ
maximum resolution = ความละเอียดสูงสุด
medical = การแพทย์
modern man = คนที่ทันสมัย
multifunction printer = เครื่องพิมพ์ที่ทำงานได้หลายอย่าง

office printer = เครื่องพิมพ์สำหรับสำนักงาน
oil free = ปราศจากน้ำมัน
operating system = ระบบปฏิบัติการในคอมพิวเตอร์ เช่น windows xp
option = ทางเลือก, ตัวเลือก, ตัวช่วยอื่น

page size = ขนาดกระดาษ
performance = ความสามารถ, สมรรถภาพ
personal printer = เครื่องพิมพ์ที่ใช้ส่วนบุคคล
pharmaceutical = การเภสัชกรรม
precise = แม่นยำ, แน่นอน, ถูกต้อง
prevent = ป้องกัน
print quality = คุณภาพในการพิมพ์
print speed = ความเร็วในการพิมพ์
print technology = เทคโนโลยีเครื่องพิมพ์
printer = เครื่องพิมพ์
product guide = คู่มือแนะนำสินค้า
property = คุณสมบัติ
publishing = สำนักพิมพ์, ธุรกิจการพิมพ์

quality print premium = คุณภาพการพิมพ์ที่ดีเยี่ยม

real estate = อสังหาริมทรัพย์
reduce co2 emission by up to 25%
     = ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากถึง 20 เปอร์เซ็นต์
registered trademark = เครื่องหมายการค้าที่ขึ้นทะเบียนแล้ว
reliability = ความน่าเชื่อถือ, ความน่าไว้วางใจ
reliable = เชื่อถือได้, ไว้ใจได้
remarkable = ไม่ธรรมดา, ความโดดเด่น
reproduction = การผลิตซ้ำ, การขยายพันธุ์
resolution = ความละเอียด
retail = การค้าปลีก

scan resolution = ความละเอียดในการสแกนภาพ

technological leadership = ผู้นำด้านเทคโนโลยี
trademark = เครื่องหมายการค้า
turnaround = การหมุนไปรอบๆ

update = การปรับปรุงในทันสมัย
utilize = ใช้ประโยชน์

wholesale = การค้าส่ง
world class = อยู่ระดับโลก

You can save up to 20%. = คุณสามารถประหยัดได้ถึง 20 เปอร์เซ็นต์

* * * * * *

คณิตศาสตร์-การแยกตัวประกอบ

วันหนึ่งผมเอาโจทย์เกี่ยวกับการแยกตัวประกอบของพหุนาม
(Factoring of polynomial) ให้ดูกัน....เอาใจน้องๆ ม.2 - ม.3 กันนิดหนึ่ง
เป็นโจทย์ข้อเดียวกันแต่วิธีทำไม่เหมือน เชิญชมได้ครับ

วิธีที่ 1

วิธีที่ 2

วิธีที่ 3
เป็นยังไงกันบ้างครับ ถ้าใครยังงงๆ ก็มาดูทบทวนวันหลังได้และครับ
ชอบ-ไม่ชอบ ขอความคิดเห็นด้วยนะครับ
* * * * * *

วันจันทร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2554

คณิตศาสตร์-กราฟของฟังก์ชัน12

ตอนนี้น่าจะเป็นตอนจบภาคแรกในของเรื่องกราฟของฟั่งก์ชั่นนะครับ
เพราะหมด stock แล้วครับ แล้วผมจะได้นำเสนอในเรื่องอื่นต่อไปบ้าง
แต่ถ้ามีโอกาสการมีหรือคนเรียกร้อง ก็จะกลับมาครับ
ไม่ให้เสียเวลามาดูกันเลยจะดีกว่า




จบภาคแรกแบบบริบูรณ์ครับ
* * * * *